วันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2561

Casio History



Sometimes things start out in the most surprising ways. Take the watch company of Casio for example. If you were asked to guess what the first product that was made by Casio, you may think it was the calculator or some other type of electronic product. You would be wrong. The Casio Company was started 1946 by Tadao Kashio. Understand that this was in Japan following World War II. The financial situation was dire in Japan at the time to say the least. When Mr. Kashio began his company, he was a fabrication engineer hoping to catch a big break.บางครั้ง จุดเริ่มต้นของบางสิ่งบางอย่างอาจจะเริ่มต้นขึ้นได้ด้วยความประหลาดใจ เช่นดังตัวอย่างของ บริษัทนาฬิกา Casio เป็นต้น ถ้าให้คุณเดาว่าผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกของ Casio คืออะไร คุณอาจจะคิดว่าเป็นเครื่องคิดเลขหรือไม่ก็ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับอิเลคทรอนิคส์ทั่วๆ ไป คุณคิดผิด!!! บริษัท Casio ก่อตั้งขึ้นโดย มิสเตอร์ Tadao Kashio ในปี ค.ศ. 1946 ซึ่งเข้าใจได้ว่าก่อตั้งขึ้นนั้นภายหลังประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่ง ณ. ตอนนั้นสถานการณ์ทางการเงินในประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างย่ำแย่มาก เมื่อ มิสเตอร์ Kashio เริ่มงานในบริษัทของเขา เขาเป็นเพียงวิศวกรประกอบซึ่งคาดหวังว่าอยากหาเวลาพักผ่อนยาวๆ สำหรับตัวเขาเอง


His big break showed up in a very unique way. Tadao Kashio developed a product called the yubiwa pipe. Its design allowed it to be worn on the finger. It was used to hold a cigarette, allowing the smoker to smoke the cigarette to the filter, all while still being able to use both hands. In the impoverished Japan of the times, cigarettes were a hot commodity and the product was an overwhelming success. The yubiwa pipe is a far cry from the calculators and watches that were to follow, but it did start the company down the road to success.แต่การหาเวลาพักผ่อนสำหรับเขานั้นไม่มีใครเหมือน เพราะ มิสเตอร์  Tadao Kashio ได้ใช้เวลาว่างในการพักผ่อนทำการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเขาเองขึ้นมาชิ้นแรกเรียกว่า Yubiwa Pipe โดยมันถูกออกแบบมาเพื่อใช้เตือนเวลาบนนิ้วมือคน โดยมันถูกใช้เพื่อคอยคีบบุหรี่ เพื่อให้ผู้สูบบุหรี่สามารถสูบบุหรี่จนถึงก้นกรองได้โดยไม่ต้องใช้มือคอยจับบุหรี่อันเนื่องมาจากความร้อน ซึ่งทำให้คนงานสามารถที่จะสูบบุหรี่ได้โดยมือทั้งสองข้างยังคงทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องคอยมาจับบุหรี่ซึ่งถือว่าเป็นการลดเวลาที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์มาก 
Since it is obvious that Mr. Kashio was an inventive sort of man, it only took a little while for him to decide to explore different products. At the business show in Ginza, Japan in 1949, he discovered electronic calculators. With the proceeds from the sale of the yubiwa pipes, Mr. Kashio and his brothers began to experiment with making their own calculators. At the time, most calculators were run by the use of gears. With diligence and hard work, the Casio Company came out with the first calculator to use solenoids. The new type of calculator went on sale in 1954. This calculator also was the first to have the 10 digit keypad and had only one display window as opposed to the competitors' that had three. In 1957 Casio released the Model 14-A, the world's first all-electric compact calculator, which was based on relay technology. 1957 also marked the establishment of Casio Computer Co. Ltd.คงจะเห็นได้แล้วว่า Mr. Kashio เป็นนักประดิษฐ์ผู้สร้างสรรค์ เขาจึงมักจะค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์ของเขาเสมอ และแล้วที่งานแสดงสินค้าที่ เมือง Ginza ประเทศญี่ปุ่นในปี 1949 เขาก็คิดค้นเครื่องคิดเลขซึ่งมียอดขายตาม yubiwa  pipe มาติดๆ ตัวเขาและพี่น้องต่างก็พากันทดลองเพื่อสร้างสรรค์เครื่องคิดเลขของพวกเขาเองขึ้นมา และอีกไม่นานนัก Casio ก็เปิดตัวเครื่องคิดเลขสายพันธุ์ใหม่ในปี 1954 ซึ่งเป็นเครื่องคิดเลขแบบแรกที่ใช้ ขดลวด solenoids และยังมีแป้นพิมพ์ของตัวเลข 10 หลัก และมีหน้าจอเดียวเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่มีถึงสามหน้าจอ และในปี 1957 Casio ก็ได้เปิดตัวเครื่องคิดเลขรุ่น Model 14-A ซึ่งเป็นเครื่องคิดเลขอิเลคโทรนิคสมบูรณ์แบบเครื่องแรกที่ใช้เทคโนโนยี relay และในปีเดียวกันนั้นเองยังเป็นปีที่บริษัท Casio Computer ได้รับการก่อตั้งขึ้น
With the launch of its first watch in November 1974, Casio entered the wristwatch market at a time when the watch industry had just discovered digital technology. As a company with cutting-edge electronic technology developed for pocket calculators, Casio entered this field confident that it could develop timepieces that would lead the market.บริษัทฯ เปิดตัวนาฬิกาข้อมือรุ่นแรกในตลาดเดือนพฤศจิกายนปี 1974 ในขณะที่ตลาดเองในขณะนั้นเพิ่งจะค้นพบเทคโนโลยีดิจิตอลขึ้นซึ่งทางบริษัทเองเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถพัฒนานาฬิกาที่จะเป็นผู้นำตลาดได้
It is possible that the most well remembered watch produced by this company was the calculator watch. For those of you who don't remember, it featured all of the amazing time keeping capabilities of the regular Casio watches, with an added feature. It had a tiny calculator complete with miniature keypad built into the watch. During its hey day it was the bane of math teachers everywhere and the savior of every math deficient student.นาฬิกาที่เป็นที่จดจำได้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นนาฬิกาเครื่องคิดเลขที่ทางบริษัทผลิตขึ้น ซึ่งเป็นนาฬิกาข้อมือที่มีทั้งการทำงานแบบนาฬิกาที่มาพร้อมกับแป้นพิมพ์ตัวเลขขนาดจิ๋วละม้ายคล้ายคลึงเครื่องคิดเลข ซึ่งเหมาะกับความต้องการอย่างมาก สำหรับอาจารย์ที่สอนคณิตศาสตร์ โดยที่จะสามารถใช้เครื่องคิดเลขได้ทุกทีโดยไม่ต้องพกพาและสามารถที่จะช่วยเหลือนักเรียนที่ไม่ค่อยคล่องกับด้านตัวเลขอีกด้วย
Considering the calculator watch was so much fun, Casio continued to raise the bar. This company was also the first to design and produce a watch that could provide its owner with some interesting details. One such watch could display the time of many different time zones at the touch of a button. Others were equipped to give weather details like the temperature and barometric pressure. Mountain climbers of ages past particularly were fond of the version that came with a gauge to indicate the altitude. While other watch makers were stuck on the same old, same old, Casio consistently offered new and exciting variations on the classic wristwatch.นอกจากนาฬิกาเครื่องคิดเลขแล้วคาสิโอยังพัฒนานาฬิกาข้อมือไปอีกระดับด้วยการสร้างสรรค์นาฬิกาข้อมือที่สามารถให้ข้อมูลที่น่าสนใจหลายประการให้กับผู้เป็นเจ้าของ เช่น บอกเวลาที่แตกต่างกันของแต่ละ time zone บอกสภาพอากาศ อุณหภูมิ และความดัน นักปีนเขาก็มักจะชอบรุ่นที่สามารถบอกระดับความสูงได้ ในขณะที่ผู้ผลิตนาฬิการายอื่นยังคงนำเสนอรายละเอียดของนาฬิกาข้อมือในแบบเดิมๆ คาสิโอก็ยังคงนำเสนอรูปแบบของนาฬิกาที่หลากหลายพร้อมการใช้งานที่น่าสนใจในรูปแบบนาฬิกาข้อมือแบบดั้งเดิม

In 1983, Casio launched the shock-resistant G-SHOCK watch. This product shattered the notion that a watch is a fragile piece of jewelry that needs to be handled with care, and was the result of Casio engineers taking on the challenge of creating the world’s toughest watch. Using a triple-protection design for the parts, module, and case, the G-SHOCK offered a radical new type of watch that was unaffected by strong impacts or shaking. Its practicality was immediately recognized, and its unique look, which embodied its functionality, became wildly popular, resulting in explosive sales in the early 1990s. The G-SHOCK soon adopted various new sensors, solar-powered radio-controlled technology, and new materials for even better durability. By always employing the latest technology, and continuing to transcend conventional thinking about the watch, the G-SHOCK brand has become Casio’s flagship timepiece product.แต่แล้วในปี 1983 คาสิโอก็ได้เปิดตัวนาฬิกาที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีคือ G-Shock ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ทนทานต่อแรงกระแทก โดยนาฬิการุ่นนี้ได้ฉีกภาพลักษณ์ของนาฬิกาที่เคยเป็นเครื่องประดับที่บอบบางและต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษจนไม่เหลือภาพเดิม G-shock เป็นนาฬิกาที่สมบุกสมบันทนทานต่อแรงกระแทกด้วยการออกแบบที่มีชั้นป้องกันอะไหล่และกลไกของตัวนาฬิกาถึงสามชั้น ทั้งยังมีรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่มาพร้อมกับการใช้งานที่หลากหลาย นาฬิการุ่นนี้จึงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายจนยอดขายทะลุทะลวงในช่วงปี 1990 และ G-shock เองก็ไม่ได้หยุดยั้งในการพัฒนา นาฬิกายังคงมาพร้อมกับเทคโนโลยีล่าสุดเสมอจึงทำให้ G-shock กลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของคาสิโอในที่สุด

With the true gadget geeks of the world in mind, Casio came up with a watch just for them. It is the Wave Ceptors line of watches. They really outdid themselves with this one. These watches are equipped to receive radio signals that enable the watch to keep accurate time. They also are able to tell the time in different time zones, the user can set alarms and timers. This line of watches also came with an incredibly extensive user manual to provide all of the necessary instructions to the owner.สำหรับคนที่คลั่งไคล้ในอุปกรณ์และต้องการย่อโลกให้อยู่ในมือ คาสิโอก็ได้เปิดตัวนาฬิกาที่ตอบสนองความต้องการของคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ นาฬิการุ่นนี้มาพร้อมกับอุปกรณ์รับสัญญาณคลื่นวิทยุเพื่อให้นาฬิกาสามารถบอกเวลาได้อย่างแม่นยำในทุกสถานที่ เช่นการบอกเวลาของแต่ละประเทศที่แตกต่างกันได้ และสามารถที่จะตั้งเวลาปลุกหรือจับเวลาได้เช่นกัน ทั้งนี้ทาง Casio ได้มีการทำหนังสือคู่มือการใช้ของนาฬิกาแต่ละรุ่นเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถทำความเข้าใจถึงความสามารถของนาฬิกาแต่ละรุ่นได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดาย
From the yubiwa pipe to the finest calculators and watches in the world, the Casio has come a long way from its humble beginnings. They continue to challenge themselves and their competitors to new higher peaks and offer the best products electronics can build.จากจุดเริ่มต้นด้วย yubiwa pipe มาถึงเครื่องคิดเลขและนาฬิกาที่ดีที่สุด คาสิโอเดินทางฉีกแนวมาไกลมากจากจุดเริ่มต้น แต่พวกเขาก็ยังคงสร้างความท้าทายให้กับตัวเองและค่แข่ง และยังคงตั้งเป้าหมายใหม่ ๆ เพื่อก้าวไปยังอีกระดับของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดที่โลกอิเลคทรอนิคจะสามารถผลิตได้
1957 Casio releases the Model 14-A, the world's first all electric compact calculatorปี 1957 Casio ได้นำผลิตภัณฑ์รุ่น 14-A ซึ่งเป็นเครื่องคิดเลขอิเล็คทรอนิคส์รุ่นแรกของโลกออกวางจำหน่าย
1965 The 001 calculator is releasedปี 1965 เครื่องคิดเลขรุ่น 001 ได้ออกวางจำหน่าย
1974 The Casiotron, a watch that features a fully automatic calendar, including month lengths and leap years, is released.ปี 1974 นาฬิกา รุ่น Casiotron ซึ่งเป็นนาฬิกาที่รวมความสามารถทางด้านปฏิทินเอาไว้ ออกวางจำหน่าย
1983 The first G-Shock watch, the DW-5000C, is released.ปี 1983 นาฬิกา G-shock รุ่นแรก DW-5000C ได้ออกวางจำหน่าย
2007 The OCW-S1000J, dubbed the Oceanus "Manta", is released being the world's thinest solar-powered chronograph being only approx. 8.9mm in thickness.ปี 2007 นาฬิการุ่น OCW-S1000J ซึ่งถือว่าเป็นนาฬิกาที่ใช้พลังแสงอาทิตย์ที่มีความบางที่สุดตั้งแต่เคยมีมา ซึ่งตัวเรือนนาฬิกามีความหนาเพียง 8.9 มิลลิเมตรเท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น