แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Seiko แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Seiko แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2561

Seiko Sea Lion M55 (แมวน้ำ)


Seiko Sea Lion M55 (แมวน้ำ)😍
Seiko ตัวนี้เพิ่งได้มาไม่นาน เป็นนาฬิกาเก่ายุค60 สวย ดูภูมิฐาน ดีครับ ผมเปลี่ยนใส่สายหนัง 20mm.เบียดนิดนึง ความจริงต้องใช้ ขนาด 19mm นาฬิกาอายุประมาณ30ปี ฝาหลังถูกเปลี่ยนมา น่าจะเป็นฝาเทียมครับ เครื่อง 394 Seikosha ขนาดตัวเรือนประมาณ 37mm.







วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2561

Seiko VS Casio




Seiko Monster กำเนิดแห่งปีศาจท้องทะเลตอนที่ 2


ในยุคนั้นการจะหานาฬิกา Monster ราคาตลาดแบบนิ่งๆนั้นเป็นสิ่งที่หายากมากๆ พอๆกับหานาฬิกา Monster สีหน้าปัดที่ถูกใจเพราะความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนก็เน้นหน้าปัดสีดำ บางคนก็เน้นหน้าปัดสีส้ม ทำให้ต่างๆหาMonster กันไปทั่วตลาด พร้อมกับราคาตลาดที่วิ่งไปๆมาๆ ที่เด็ดกว่านั้น ใส่แล้วเบื่อๆ อาจจะขายได้ราคาพอๆกับตอนไปสอยมาก็ได้ นับเป็นเรื่องที่หาได้ยากมากๆสำหรับนาฬิกา Entry Level อย่างเจ้า Monster การออกแบบของMonsterนั้น นับว่าแหวกแนวกว่านาฬิกาเจ้าอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ตัวเรือน Steel บึกๆ ขนาดใหญ่ที่หนักอึ้ง สายเหล็กที่แน่นหนา พร้อม Extension ที่ขยายได้สำหรับใส่ Wet Suit ดำน้ำ พร้อมระบบดับเบิลล็อค เพื่อล็อคสายให้มั่นคงแข็งแรง ขณะทำกิจกรรมต่าง
หรือจะเป็นวงแหวนจับเวลาที่ขอบถูกออกแบบให้ใหญ่ชัดเจนพร้อมด้านข้างที่มีช่องเว้าขนาดใหญ่ ที่สามารถปรับได้อย่างสะดวกแม้ยามใส่ถุงมือดำน้ำก็ตามและตัววงแหวนจับเวลายังหมุนทิศทางเดียวเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย เรียกได้ว่ายึดถือการออกแบบตามนาฬิกาดำน้ำแบบมืออาชีพกันเลยทีเดียว ข้อดีเหล่านี้เองทำให้ Monsterได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในตลาดนาฬืกา Entry Level คิดเอาเองแล้วกันครับ




ดังขนาดที่ Seikoส่งเจ้าMonster รุ่นพิเศษสำหรับประเทศไทยเปิดตัวในปี 2003 ที่เป็นหน้าปัดสีเหลืองสด กระจกเป็นแบบ Crytal Sapphireพร้องเลนส์ขยายวันที่ หรือเรียกกันติดปากว่า Cyclop ผมได้มีโอกาสอยู่ในการเปิดขายนาฬิการุ่นนี้ครั้งแรกเมื่อปี 2003 ในงานนาฬิกาแห่งหนึ่งย่านบางกะปิ ที่แม้ในตอนนั้นการประชาสัมพันธ์จะไม่ได้ทำอะไรมากมายนักแต่เมื่อเปิดขายกลับกลายเป็นว่ามีผู้คนต่างแย่งซื้อมากมายจนหมดในเวลาไม่นาน และบรรดาตัวแทนขายต่างๆ และร้านทั่วไปก็โดนโทรตามให้วุ่นจากคนที่พลาดจากการซื้อในงานและเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ทำราคาขายต่อได้ดีมาก ถ้าผมจำไม่ผิดราคาขายของเจ้ารุ่นนี้เคยทะยายไปถึง 40,000 บาท จากราคานาฬิกาแค่หมื่นนิดๆเท่านั้นถือว่าเป็นปรากฏการณ์ทางการตลาดของวงการนาฬิกาที่หาไม่ได้ง่ายนักและจะหาใครมาเทียบเคียงก็คงจะยากอีกเหมือนกันและความนิยมในตัว Monsterก็ยังคงอยู่เช่นเดิม ทั้งๆที่ตัวหน้าปัดสีเหลืองหมดได้จากตัวแทนจำหน่ายไปแล้ว ทำให้ช่วงปี 2005-2006 ไซโก้ได้ส่ง Blue Monsterลงสู่ตลาดเพื่อเอาใจแฟนๆอีกครั้ง



 ถัดมาในปี 2007 ก็ส่งอีกรุ่นคือ Red Monsterมาเพิ่มความฮิตของกระแสMonsterให้โด่งดังมากขึ้นและ Seikoก็ได้ส่ง Monster ออกมาอีกหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็นรุ่น Black×Black Monster ที่ผลิตเฉพาะตลาดญี่ปุ่นเท่านั้นและไม่นับรวมรุ่นย่อยๆอีกมากมาย อย่างเช่นรุ่น Land Monster , Price Monster , Mini Monster นับกันไม่หวาดไม่ไหว แต่ไม่ว่าจะออกมากี่รุ่นต่อกี่รุ่น คนทั่วโลกก็ยังคงความสนใจอยู่ไม่เสื่อคลาย และปี 2010 ก็เขย่าวงการอีกครั้ง ด้วยการแนะนำ Green Monster ซึ่งกระแสในขณะนี้ถือว่าร้อนแรงสุดๆ เพราะขนาดต้องลงคิวจองยาวเป็นหางว่าวและคาดว่า Green Monsterรุ่นนี้จะหมดตลาดไปอย่างรวดเร็ว คงมีเหลือแต่ราคาในตลาดขายต่อที่มีการเพิ่มราคาสูงขึ้นกว่าเดิมไปมากเเล้ว



Seiko Monster ถือเป็นการเกิดขึ้นของปรากฏการณ์ใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้น วงการนาฬิการะดับราคา Entry Level และจุดเริ่มต้นความโด่งดังนั้นก็มีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศไทย จากที่ ไซโก้ เคยคิดแต่เพียงว่าเป็นนาฬิกา Driver ที่หน้าตาดีๆ ดุๆ เท่านั้น แต่ในปัจจุบัน การขยับตัวของ Monsterนั้น ส่งผลกระทบอย่างมากมายต่อวงการนาฬิกา และนี่ก็คือ ตำนานที่ยิ่งใหญ่ของเจ้าปีศาจตนนี้นั่นเองครับ


เครดิต หนังสือ 1PM Magazine
Seiko Monster กำเนิดแห่งปีศาจท้องทะเลตอนที่ 1

วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2561

Seiko Monster กำเนิดแห่งปีศาจท้องทะเลตอนที่ 1


กำเนิดแห่งปีศาจท้องทะเล

ไซโก้ ผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำจากแดนอาทิตย์อุทัยที่มียอดการผลิตนาฬิกาในแต่ละปีนับสิบล้านเรือนและในทุกๆก็มีรุ่นใหม่ๆออกมาเขย่าตลาดเสมอ ไม่ว่าจะยากดีมีจน เด็กหรือคนแก่ต่างก็เข้าใจกันว่า Seiko คือนาฬิกาแบรนด์จากญี่ปุ่นที่ดีและราคาไม่แพง ตัว ไซโก้ เองก็มีนาฬิกามากมายหลายรุ่นที่เหมาะกับการทำกิจกรรมต่างๆไม่เว้นแต่นาฬิกาข้อมือในกลุ่ม Driver ที่เหมาะสำหรับนักดำน้ำที่ต้องการความสมบุกสมบันในราคาไม่แพงและเชื่อถือได้ ฟังดูใครๆก็ทำอย่าง Seiko ได้ แต่ถ้าคิดให้ดีๆว่า บริษัทที่ผลิตนาฬิกาในแต่ปีละหลายสิบล้านเรือนจะผลิตนาฬิกา Driver คุณภาพดีๆ เชื่อถือได้ในราคาหลักพันหลักหมื่นที่ทำงานด้วยกลไกได้ดีแล้วละก็ บอกเลยว่าในโลกนี้หาใครที่จะเทียบเคียงเท่า Seiko คงไม่มีอีกแล้ว และในปัจจุบัน Seiko ก็ยังคงแนวทางนั้นอยู่เหมือนเดิมทุกประการ



 เข้าเรื่องกับเจ้า Monster ตามที่จั่วหน้าไว้ตามหัว เรื่องข้างบนบ้าง เรื่องของเรื่องคือ Seiko ได้ผลิตนาฬิกา Driver หรือเรียกง่ายๆว่านาฬิกาดำน้ำออกมามากมายก่ายกอง รุ่นเหล่านั้นก็ขายดีแบบเรื่อยๆเอื่อยๆ แต่เมื่อย้อยกลับไปไม่กี่ปีมานี้ในช่วงราวปี 2000 Seiko ก็ทำให้เราๆชาวไทยได้รู้จักนาฬิกา Driver รุ่นหนึ่งที่เป็นจุดตำนานความโด่งดังไปทั่วประเทศไทยและทั่วโลกคือ Seiko Monster นั่นเองและก็ต้องยอมรับอย่างภูมิใจว่ารุ่นนาฬิกา Seiko นั้นมีต้นกำเนิดมาจากประเทศไทยและโด่งดังจนเข้าใจและเรียกกันไปไกลทั่วโลกแถม Seikoเองก็ชอบชื่อนี้เสียด้วย ทำให้การแนะนำนาฬิกาในซีรีย์นี้ถูกเรียกขานในชื่อ Monster ไปโดยปริยาย การตั้งชื่อเรียก Monster เกิดจากสองบุคคลที่คลุกคลีอยู่ในวงการนาฬิกามาอย่างยาวนานและถ้าใครเล่นเว็บนาฬิกาต่างๆมานานพอแล้วหละก็ คงพอจำได้หรือคุ้นชื่อทั้งสองท่าน เป็นอย่างดีแน่นอน คงแรกก็คือ ทอมมี่ แห่งเว็บไซต์ Siamnaliga.com และคนที่สองคือคุณ Reto Cascellazzi แห่ง Poorman’s watch forum ชาวสวิตที่พำนักอยู่เมืองไทยและหลงใหลนาฬิกาเช่นกันทั้งสองท่านนี้เป็นคนที่คอยเฟ้นหานาฬิกาดีๆ ราคาไม่แพง มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับบรรดาเพื่อนๆ และสมาชิกเว็บอยู่เสมอ และเมื่อ Moster ออกขายในปี 2000 ก็ยังไม่ดังเปรี้ยงร้าง มากนัก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไรเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะ Seiko ในตอนนั้นไม้ได้คิดว่ารุ่นนี้จะเป็นรุ่นเด่นดังเหมือนในทุกวันนี้ก็เป็นได้ แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปในปี2002 บุคคลทั้งสองท่านก็ได้นำเจ้า Moster มาพูดคุยกับเพื่อนๆที่รู้จักและตั้งชื่อเล่นๆว่า Monster ด้วยหน้าตารูปลักษณ์เหมือน Sea Monster ที่บึกบึน ใหญ่ หนา หนักเป็นที่สุด แต่ประเด็นที่ส่งต่อความดังก็คือ Seiko ได้ผลิตนาฬิกา Driver คุณภาพดีมากๆเรือนกนึ่งในราคาแค่หลักพัน พร้อมคุณสมบัติมากมายเหมือนนาฬิกาDriver ราคาแพง แถมการผลิตก็อยู่ในระดับที่ดีด้วย พูดตรงๆ นาฬิกาแบนด์สวิตบางแบรนด์อาจจะต้องอายม้วนไปก็ได้ ไม่ว่าจะราคาหรือคุณภาพการผลิตและหลังจานั้นชื่อ Monster ก็ได้จารึกอยู่ในใจนักสะสมมากมายและขยายขจรไกลไปทั่วทั้งโลก Monsterในยุคเริ่มแรกนั้นแบ่งออกเป็น 2 รุ่น ก็คือ รุ่น หน้าปัดสีดำSKX779K1 และหน้าปัดสีส้มสดSKX781K1
SKX779K1


SKX781K1

เครดิต หนังสือ 1PM Magazine
Seiko Monster กำเนิดแห่งปีศาจท้องทะเลตอนที่ 2

วันพุธที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2560

วิธีดูสายสแตนเลสไซโก้ปลอม

สายสแตนเลสไซโก้รุ่นเก่า สำหรับท่านที่เก็บสะสมนาฬิกาไซโก้เวลาเลือกซื้อนาฬิกาไซโก้เก่ามือสองอาจจะ มีโอกาสเจอครับ เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าตัวนาฬิกาข้อมือมีการใช้งานที่ยาวนานทำให้สายเกิดความเสีย หายซึ่งอาจจะหาสายเดิมไม่ได้ หรือไม่ก็ผู้ขายต่อต้องการประหยัดต้นทุน จึงนำสายปลอมมาใส่แทนอีกประเด็นคือความไม่รู้ไม่ว่ากรณีใดก็แล้วแต่ มีข้อสังเกตุคือ ผิวโลหะจะไม่มันเงา และน้ำหนักของปลอมจะเบากว่าของแท้ เนื่องจากไม่ใช่ สแตนเลสคุณภาพสูงเหมือนของจริงและที่สำคัญคำว่า Seiko ตรงบานพับจะไม่คมชัดเจนเหมือนของจริง ตามรูป พอดูเป็นแนวทางได้ครับ



วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เปิดตำนานนาฬิกาควอตซ์ตอนที่1



นาฬิกาควอตซ์หรือนาฬิกาที่ใช้ถ่านเป็นนวัตกรรมที่เกิดขึ้นในปี 1927 แต่มีขนาดใหญ่มากขนาดต้องใช้รถบรรทุกเล็กขน ยุคสงครามที่ตามมาเป็นปัจจัยเร่งให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ อย่างรวดเร็วพอถึงสงครามโลกครั้งที่สอง การสื่อสารทางการทหารมีการพัฒนาใช้แร่ควอตซ์ Quartz Crystal Oscillators เป็นมาตรฐานย่านความถี่อย่างแพร่หลายและรวดเร็ว หลังสงครามสิ้นสุดลง คุณสมบัติของแร่ควอตซ์
จึงถูกนำมาใช้กับนาฬิกาในการสร้างความถี่และพัฒนาให้นาฬิการะบบควอตซ์มีขนาดเล็กลง บริษัทแรกๆ ที่เริ่มลงมือพัฒนาก็คือ Suwa Seikosha จากแดนอาทิตย์อุทัยซึ่งในภานหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Seiko นั่นเองและอีกบริษัทหนึ่งก็คือ Hamilton จากฝั่งอเมริกา ทางฝั่งสวิตเซอร์แลนด์ก็ไม่น้อยหน้าคือมีการรวมกลุ่มกันพัฒนาร่วมกันได้แก่ Ebauche SA, Le Coultre, Mido, Rolex, Tissot เป็นกลุ่มผู้ร่วมค้าภายใต้ชื่อ Centre Electronic Horloger (CEH) เพื่อร่วมกันพัฒนาเครื่องนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการใช้งาน ในขณะที่ Girard Perregaux เลือกที่จะฉายเดี่ยวโดยการสร้างแผนวิจัยของตนเองขึ้นมา

ผลปรากฏว่า Seiko ประสบผลสำเร็จเป็นแบรนด์แรกเฉือนสวิสและอเมริกาไปนิดเดียวด้วย Seiko Astron นาฬิกาข้อมือควอตซ์รุ่นแรกของโลกซึ่งวางขายที่กรุงโตเกียวในวันคริสต์มาสปี 1969 ด้วยราคาที่แพงถึง 450,000 เยน หรือเทียบเท่ารถเก๋งโตโยต้ารุ่นธรรมดาในช่วงนั้น

โปรดติดตามตอนต่อไป..

วันพุธที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560

ประเภทของนาฬิกาตามกลไกการทำงาน

Mechanical & Quartz Watches


เราจะแบ่งออกตามกลไกการทำงานของมันได้เป็นสองกลุ่มใหญ่คือ

A.กลุ่มนาฬิกากลไก หรือ นาฬิกาจักรกล หรือ Mechanical Watch พวกนี้คือนาฬิกาที่ใช้การเคลื่อนไหวของฟันเฟืองต่างๆ โดยแรงขับจากลานสปริง เป็นนาฬิกาที่มีมานานหลายร้อยปีแล้ว พวกนี้แบ่งย่อยออกเป็นสองกลุ่มคือ

1.นาฬิกาไขลาน(หรือไขลานด้วยมือ) หรือ Manual Winding พวกนี้คือนาฬิกาดั้งเดิมที่ใช้กันมาโดยอาศัยการไขลานให้สปริงลานตึงขึ้นและเมื่อสปริงคลายตัวก็ใช้เป็นพลังงานในการขับเคลื่อนนาฬิกาให้เดิน

2.นาฬิกาออโตเมติค หรือนาฬิกาไขลานอัตโนมัติ (หรือไขลานด้วยตัวเอง)(Automatic winding )หรือ Self winding หรือ ค่าย Rolex เรียกมันว่า Perpetual (หมายถึงตราบใดที่ยังใส่ก็ยังเดินตลอดไป) พวกนี้จะมี Rotor คอยเหวี่ยงเข้าลานให้ เราตลอดเวลาที่สวมใส่ หรืออยู่ในเครื่องหมุนเข้าลานนาฬิกา(Watch Winder) นาฬิกาพวกนี้เวลาเขย่าเบาๆ จะได้ยินเสียง Rotor มันสั่นหรือหมุนให้ได้ยิน


B.กลุ่มคือนาฬิกาควอทซ์ หรือนาฬิกาอีเลคทรอนิค หรือนาฬิกาที่ใช้แบตตารี่ หรือที่อาจารย์ Tommy แห่ง Siam Naliga เรียกว่านาฬิกาใส่ถ่าน พวกนี้จะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เป็นตัวหมุนเข็มให้เดินบอกเวลา หรือ รายงานผลผ่านจอ LCD หรือ หลอดไฟ LED และพวกนี้จะใช้พลังงานไฟฟ้าบางส่วนส่งผ่านผลึกควอทซ์ แล้วรับสัญญาณความถี่ กลับออกมาให้ ไมโครโพเซสเซอร์ประเมินออกมาเป็นเวลา เพื่อควบคุมการเดินของเข็ม นาฬิกาพวกนี้ให้ความเที่ยงตรงสูง แถมราคาค่อนข้างถูกเพราะว่าชิ้นส่วนอีเลคทรอนิคในปัจจุบันทำได้ครั้งละเป็นจำนวนมากๆ ทำให้ราคาไม่ค่อยแพง แต่ว่าไม่ค่อยได้รับความนิยมนิยมกันในหมู่นักเล่น นาฬิกามากนัก


 ปัจจุบันนาฬิกาในกลุ่มนี้ บางรุ่น จะมี Rotor เหวี่ยงหมุนตามการเคลื่อนไหวเวลาใช้งาน คล้ายกับนาฬิกาออโต้เมติค แต่แทนที่จะเหวี่ยงเข้าลาน มันกลับเป็นการเหวี่ยงเพื่อชาร์ตประจุไฟฟ้าไปเก็บไว้ในตัวเก็บประจุไฟฟ้า แล้วนำพลังงานไฟฟ้านี้ไปใช้กับระบบอีเลคทรอนิคแทนแบตเตอรี่ปกติ นาฬิกาพวกนี้คนที่บุกเบิกก็คือ Seiko ที่เรามักเรียกระบบนี้ตาม Seiko ว่า นาฬิกา " K i n e t i c "
นาฬิกาQuatz ในปัจจุบันยังมีการนำพลังงานจากแหล่งอื่นมาใช้ร่วมด้วยอีก เช่นใช้ Solar Cell ชาร์ตประจุไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ มาใช้เป็นต้น รวมไปถึงพวกนาฬิกา ที่ใช้พลังงานจากแรงกดอากาศ ที่ต่างกันก็มี


ล่าสุดในปัจจุบันยังมีนาฬิกา อีกระบบ ที่อยู่ตรงกลาง เป็นการผสมผสาน ระหว่าง นาฬิกาควอทซ์ และ นาฬิกาจักรกล นั่นคือ " S p r i n g D r i v e " จากค่าย Seiko เช่นกัน โดยมันเป็นนาฬิกาที่ขับเคลื่อนเฟืองและเข็มให้เดินด้วยลานเหมือนนาฬิกาจักรกลไขลานธรรมดา แต่ว่าพลังงานบางส่วนจากสปริงลานนี้จะถูกนำไปหมุนตัว Dynamo ขนาดจิ๋ว สร้างเป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อป้อนให้ผลึก Quartz เพื่อนำสัญญานความถี่นั้นมาคำนวนเป็นเวลา เพื่อควบคุมการเดินของเข็มอีกที ซึ่งจะได้ความแม่นยำเที่ยงตรงสูงมากขึ้น


เปรียบเทียบความนิยม

หลายคนอาจจะรู้สึกว่าแปลก ที่ทำไมนาฬิกาจักรกล ซึ่งแพงกว่า เที่ยงตรงน้อยกว่า นาฬิกาควอทซ์ จึงได้รับความนิยมจากนักสะสมมากกว่า

 ในราวประมาณ สามสิบ ถึง สี่สิบปีก่อน เมื่อทางค่ายญี่ปุ่นคิดค้นนาฬิกาควอทซ์ ขึ้นมาได้ ตอนนั้นหลายคนคิดว่า นาฬิากาจักรกลคงถึงกาลอวสานปิดฉากลงได้แล้ว เพราะว่าความเที่ยงตรง และราคาที่ถูกกว่ามากมายเหนือกว่านาฬิกาจักรกล ที่ทำด้วยมือจากสวิสต์ (และหลายค่ายในสวิตซ์ก์ปิดตัวเองจริงๆด้วย)
แต่เมื่อผ่านเวลาแห่งความตื่นเต้นกับนวัตกรรมใหม่ไประยะนึงแล้ว คนเริ่มหันกลับหานาฬิกาจักรกลเพื่อนเก่า

 เหตุผลก็คือนาฬิกาจักรกล จะอาศัยกลไกที่ซับซ้อน ออกแบบให้ทำงานต่อเนื่อง และใช้ฝีมือในการทำปราณีตมากกว่า นาฬิกาควอทซ์ ซึ่งแค่ส่งสัญญานไฟฟ้าเข้าไปในผลึกควอทซ์ แล้วรับความถี่ออกมา แล้วใช้คอมประมวลผล ก่อนส่งไปควบคุมการหมุนของเข็ม ซึ่งทุกอย่างค่อนข้างสำเร็จรูป และตายตัวไปหมด

 ยิ่งพวกฟังชั่นพิเศษต่างๆ พวกการจับเวลา หรือ ตั้งปลุก หรือปฏิทิน นี่ง่ายมากสำหรับพวกควอทซ์ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ ในขณะที่ นาฬิกาจักรกล ต้องอาศัยการดีไซน์กลไกซับซ้อน แบบสุดยอดเลย
 ข้อเหนือกว่าอีกอย่างคือนาฬิกาจักรกล เป็นกลไก Mechanic ล้วนๆ ไม่ต้องอาศัยไฟฟ้า ทำงานได้ด้วยตัวของเอง ไม่ต้องคอยเปลี่ยนแบตเตอรี่ อาจจะต้องการเพียงแค่การทำความสะอาด และหล่อลื่นเล็กน้อย นานๆครั้งเท่านั้น ทำให้ความคงทนสูงกว่าพวกควอทซ์ซึ่งมีแบตเตอรี่และวงจรอีเลคทรอนิคส์ ซึ่งพวกนี้นอกจากต้องคอยเปลี่ยนถ่านให้มันตอนหมดแล้ว ถ้าเผลอปล่อยให้มันหมดทิ้งในเครื่อง บ่อยครั้งที่แบตที่หมดอายุเสื่อมและเน่าในเครื่องทำให้เสียหายได้

อีกเหตุผลนึงที่คนเล่นนาฬิกาจักรกลชอบก็คือ เสียงกลไกของนาฬิกาจักรกลที่มันเดินขยับเคลื่อนไหว มันดังเหมือนกับจะบอกให้รู้ว่ามันมีชีวิต กำลังทำงานอยู่ ไม่เหมือนควอทซ์ ซึ่งค่อนข้างจะเงียบเฉย เย็นชา กับเจ้าของ เหลือเกิน

สรุป ก็คือ แต่ถ้าพูดเรื่องราคาและความคุ้มค่า ตลอดจนความเที่ยงตรง แน่นอนนาฬิกาควอทซ์ คุ้มค่ากว่ามากในด้านเศรษฐศาสตร์ แต่ถ้าด้านจิตใจ หลายคน ที่เป็นแฟนพันธ์แท้นาฬิกา หรือแม้แต่แฟนพันธ์เทียมอย่างผม ยังรัก นาฬิกาจักรกล มากกว่า ควอทซ์ กันเป็นส่วนใหญ่
ขอบคุณบทความดีๆจาก
http://www.2jfk.com/knowledge.htm#movement

วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554

วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Seiko Sea Lion C22



ไซโก้ Seiko Sea Lion
C22 ตัวนี้ได้มาจากในเน็ตครับราคา สองพันต้นๆ เป็นนาฬิกาในยุค 60 เครื่องไซโก้ ไขลาน 6602 บอดี้ 8000 Diashock ทับทิม 17 เม็ด แสดงเวลาแบบสามเข็มหน้าปัดสีเงิน (silver)ขนาดตัวเรือนประมาณ 36mm หนา 11mm แสดงวันที่ตรง 3นาฬิกา กระจกอะคริลิก (พลาสติก) นูน ฝาหลังเกลียว สวยคลาสสิคไม่เบาครับ โดยส่วนตัวผมชอบมากครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Seiko Premier Jet Black มหาบุรุษแห่งรัติกาล‏




เมื่อความคลาสสิกมาผสานกับความโมเดิร์ กำเนิดเรือนเวลาสุดพิเศษ 'Permier' จุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ภายใต้ความคลาสสิกมีระดับ เพื่อรสนิยมของผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่รวมเอาฟังก์ชั่นและนวัตกรรมแห่งเครื่องบอกเวลาอย่างสมบูรณ์แบบ
'ไซโก' เผยโฉมสุภาพบุรุษแห่งรัติกาล 'Premier- 'Jet Black' Kinetic Perpetual' (พรีเมียร์-'เจ็ตแบล็ก' คีเนติก เพอร์เพ็ตชวล) รุ่นพิเศษเพื่อการครบรอบ 130 ปี SEIKO ในปี 2011 นี้เป็นการผสมผสานสุดยอดดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของพรีเมียร์ กับตัวเรือนสเตนเลสสตีลรมดำแบบ Hard Coat สุขุม ลึกลับ และน่าค้นหาดั่งชายหนุ่มผู้มาพร้อมกับเงามืดแห่งรัติกาล ลงตัวกับสายหนังแท้ชั้นเยี่ยมสุดเนี้ยบ เข้ากับตัวเรือนได้อย่างลงตัว กระจกหน้าปัดแซพไฟร์กันรอยขีดข่วน ที่สำคัญขับเคลื่อนเวลาด้วยระบบ Kinetic อันสะสมพลังงานจากการเคลื่อนไหวได้ยาวนานสูงสุดถึง 72 ชั่วโมง ครบเครื่องด้วยระบบ Auto Relay ที่พร้อมจะปลุกเรือนเวลาจากการหลับไหล แม้ยาวนานถึง 4 ปีให้กลับมา ณ เวลาปัจจุบัน โดยไม่ต้องปรับตั้งเวลาใหม่ได้ทันทีเพียงแค่คุณเขย่า สุดเพอร์เฟ็กต์ด้วยฟังก์ชั่น Perpetual Calendar ปรับวันที่ให้อัตโนมัติแม้ในปีอธิกสุรทิน จนถึงปี 2100
พบกับ SEIKO 'Premier-Jet Black' มหาบุรุษแห่งรัติกาลได้ที่เคาน์เตอร์ไซโก ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำและร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ (ราคาเรือนละ 32,590 บาท)

วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

Seiko Monster Diver’s 200M Automatic



นาฬิกาข้อมือ ไซโก้เป็นนาฬิกาที่อยู่คู่คนไทยมานาน นักสะสมไม่น้อยที่เริ่มจากยี่ห้อนี้
เนื่องจาก มีความทนทาน คุณภาพใช้ได้ และที่สำคัญราคาไม่แพงในรุ่นธรรมดาทั่วไป
ส่วนในรุ่นเทพ ราคาจะสูงแต่เมื่อเทียบกับนาฬิกาข้อมือในระดับเดียวกันก็ถือว่าไม่แพงครับ
จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมนาฬิกาไซโก้จึงครองใจแฟนๆ มาจนถึงประจุบัน



วันี้มี Seiko Monster ตัวสุดฮิตอีกรุ่นนึงที่แฟนๆไซโก้บ้านเรานิยมกันพอสมควร
คือ SKX779K1 และ SKX781K1 สองตัวนี้ต่างกันที่สีหน้าปัดครับ นอกนั้นหมือนกันครับ

SKX779K1




เม็ดมะยม ล๊อคแบบเกลียว
เครื่องระบบ ออโตเมติก 7S26
ขนาดตัวเรือน 44 มม. หนา 13 มม.
กันน้ำ 200 เมตร
กรอบหน้าหมุนได้ ทิศทางเดียว



ระบบการล๊อค สาย แบบล๊อค 2 ชั้น



ฝาหลังแบบเกลียว




SKX781K1








วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Seiko SKA371P1 Review

Seiko SKA371P1 Review.
แปลโดย watches Catalog.blogger.com
ผมทราบว่ามีการรีวิวนาฬิกาข้อมือเรือนนี้กันมาบ้างแล้ว แต่ผมอยากจะแบ่งปันความคิดเห็นของผมในฐานะที่เป็นเจ้าของมันด้วยคนหนึ่ง


ผมใช้ความคิดอย่างมากก่อนที่จะตัดสินใจซื้อนาฬิกา Seiko เรือนแรกและเรือนเดียวสำหรับผม ผมสอบถามข้อมูลจากพนักงานในร้านนาฬิกาหลายคน หรือแม้กระทั่งโทรไปถามข้อมูลจาก Seiko UK เกี่ยวกับอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ใช้กับนาฬิกา kinetic ผมแค่ชอบที่มันหนักดี ดูแข็งแรงบึกบึน ผมกังวลเกี่ยวกับการชาร์จพลังงานให้กับแบตเตอรี่ของมันเพราะว่าผมจะใส่มันแค่อาทิตย์ละไม่กี่ชั่วโมงในช่วงวันหยุด
ท้ายที่สุดผมกซื้อมันจากร้าน Leslie Davis ใน Peterborough ซึ่งพนักงานดูมีความรู้และผมก็ยืนยันให้เค้าสั่งมาจาก Seiko ไม่ใช่จากตู้โชว์ เพราะนาฬิกา kinetic หลายๆเรือนนั้นแบตเตอรี่เสื่อมเพราะอยู่ในตู้โชว์นานเกินไป
ผมชอบนาฬิกาเรือนนี้มาก มันมีทุกอย่างที่ผมต้องการ ตัวเรือนหนา หนัก และเก็บงานได้ดีมาก
สายของมันก็ตัน และมีข้อต่อแน่นหนา ตัวปรับแบบละเอียดที่สายและสามารถขยายออกเมื่อสรวมใส่กับ wet suit ผมรู้สึกว่าสรวมใส่แล้วสบาย
กระจก hardlex ก็ยังคงป้องกันการขูดขีดได้ดี
กลับไปดูที่ตัวเรือนกันบ้าง เม็ดมะยมมีเกลียวยาวขันได้ราบลื่น ปุ่มกดเพื่อตรวจสอบระดับพลังงานสำรองที่ 2 นาฬิกา เมื่อต้องการอ่านค่า ให้กดตอนเข็มวินาทีอยู่ที่ 12 นาฬิกา เข็มวินาทีจะบอกระดับพลังงานสูงสุดอยู่ที่ 30 วินาที
ฝาหลังปัดเงาวาววับมีสัญลักษณ์มหาสมุทรพร้อมระบุมาตรฐานนาฬิกาดำน้ำ
กลไก 5M62 ที่เที่ยงตรงและพิสูจน์แล้วในความน่าเชื่อถือ
เสียงเครื่องไม่ค่อยเพราะเหมือนกลไกออโตเมติกทั่วๆ แต่เดี๋ยวซักพักคุณก็จะชินกับมัน ผมว่าก็ดีที่ได้ยินเสียงครางของมันตอนที่ชาร์จพลังจนเต็ม ถ้ามีเวลาผมจะเขย่าเพื่อเติมพลังงานให้มันซักพักก่อนจะเก็บมันใส่ลิ้นชัก
โดยส่วนตัวแล้วผมชอบนาฬิกาหนักๆ และเรือนนี้ก็ใช่ แต่ผมว่าควรจะเอามันไว้ห่างๆก้อนอิฐก้อนหินเพราะมันอาจจะเป็นรอยได้ ผมทำมันเป็นรอยตอนใส่เล่นวอลเลย์บอลชายหาดเพราะโดนลูกบอลที่ติดทรายขูดเอา
พอกลับถึงบ้านผมใช้สก้อตไบรท์ขัดเก็บรอยขูด มันจึงกลับมาดูเหมือนใหม่อีกครั้ง
นาฬิกามาพร้อมกับกล่องที่สวยมากพร้อมสมุดคู่มือและใบรับประกันทั่วโลกและใบรับประกันจาก Seiko UK ที่ระบุว่านาฬิกาดำน้ำทุกเรือนได้ถูกทำการทดสอบภายใต้แรงดันซ้ำอีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะส่งมอบให้ตัวแทนจำหน่ายใน UK ใบรับประกันประกอบด้วย serial number, รหัสเครื่อง และลายเซ็นพร้อมระบุวันที่ผ่านการทดสอบแรงดัน ผมว่านี่เป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นว่า Seiko เรือนนี้ผลิตมาอย่างดี
ผมยอมรับว่าไม่เคยใช้มันดำน้ำจริงๆ แต่ผมมั่นใจมากว่าถ้าต้องใช้ก็ไม่มีปัญหา
สำหรับเรื่องแบตเตอรี่ ผมใส่มันครั้งละไม่กี่ชั่วโมงตอนวัหยุดสุดสัปดาห์ แต่ก็ไม่ใช่ทุกสัปดาห์ มันก็ยังคงรักษาระดับพลังงานสำรองไว้ได้ที่ตำแหน่ง 20 วินาทีเสมอ
ผมใส่มันทุกวันเมื่อหน้าร้อนที่ผ่านมาตลอด 8 วัน พอตรวจสอบระดับพลังงาน มันชี้ไปที่ระดับสูงสุดเลย
สุดท้ายแล้วผมแนะนำ SKA 371 สำหรับผู้ที่ต้องการนาฬิกาที่ผลิตมาอย่างดี เชื่อถือได้ หนัก และกันน้ำ
หวังว่านี่คงจะเป็นข้อมูลให้กับท่านที่กำลังมองหา SKA 371

วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Grand Seiko คอลเลคชั่นฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งความทุ่มเทเพื่อความเป็นเลิศ

ตุลาคม 2010

Grand Seiko คอลเลคชั่นฉลองครบรอบ 50 ปี แห่งความทุ่มเทเพื่อความเป็นเลิศ

SEIKO WATCH CORPORATION มีความภูมิใจเป็นอย่งยิ่งที่จะแนะนำนาฬิกาข้อมือคอลเลคชัั่นใหม่ในรุ่น Limited Edition เนื่องในโอกาศฉลองครบรอบ 50 ปีของ Grand Seiko ในคอลเลคชั่นนี้มีนาฬิกาทั้งหมด 6 แบบ ที่มาพร้อมกับระบบกลไกขับเคลื่อนใหม่ที่สมบูรณ์แบบมากกว่าที่เคยมีในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา Grand Seiko คือนาฬิกาที่ธรรมดาแต่สวยงามมากที่สุดเท่าที่ Seiko เคยสร้างมา จาก Grand Seiko เรือนแรกที่ผลิตขึ้นในปี 1960 จนกระทั่งปัจจุบันรุ่นล่าสุดที่ใช้กลไกออโตเมติคความถี่สูงถึง 36,000 vph Grand Seiko ทุกเรือนแบ่งปันความสวยงามในการออกแบบและฟังชั่นที่มีประโยชน์จนมีชื่อเสียงถึงทุกวันนี้

.

2010 ปีแห่งการเฉลิมฉลองแด่ความเป็นตำนาน

คอลเลคชั่นฉลองครบรอบ 50 ปีนี้ประกอบด้วยกลไก Spring Drive, Quartz และ Automatic นาฬิกาทุกเรือนนี้ใช้กลไกมารตฐานระดับสูงมากกว่าที่เคยเป็น และทุกเรือนจะมีเครื่องหมาย Grand Seiko รูปสิงห์โตอันโด่งดังที่หน้าปัด ในรุ่น Spring Drive และ Automatic จะถูกประดับด้วยทองคำ 18 กะรัตไว้ที่ตัวโรเตอร์ พร้อมเครื่องหมาย "50th Anniversary 1960-2010" และ Serial No. บนฝาหลังทุกเรือน

Spring Drive สำหรับรุ่นฉลองครบรอบ 50 ปีนี้ใช้กลไก Spring Drive รุ่นใหม่ Caliber 9R565 ความละเอียดสูง กลไก Spring Drive เป็นเครื่องสุดหรูของ Seiko กลไกใหม่นี้ให้ความเที่ยงตรงที่ 10 วินาที/เดือน ช่างนาฬิการะดับปรมาจารย์ของ Seiko ได้เลือกสรรค์ผลึกชนิดพิเศษสำหรับ Legulator เพื่อให้ได้มาซึ่งความเที่ยงตรงระดับนี้

นาฬิกาเรือนโลหะและพลาตินั่ม สายหนังจรเขัก็มีในคอลเลคชั่นนี้ด้วย

Caliber 9R15

-บอกเวลาแบบ 3 เข็ม

-แสดงวันที่

-แสดงระดับพลังงานสำรอง

-ระบบออโตเมติคพร้อมขึ้นได้ด้วยเม็ดมะยม

-ทับทิม 30 เม็ด

-สำรองพลังงานสูงสุด 72 ชั่วโมง

-ความเที่ยงตรง 10 วินาที/เดือน

-ขนาดเครื่อง 30mm หนา 5.1mm

Model SBGA055

ตัวเรือนสเตนเลส ฝาหลังเปลือย

สายสเตนเลสพับ 3 ชั้นพร้อมปุ่มปลดล้อค

กระจก Sapphire ความคมชัดสูงแบบ Dual-curved เคลือบกันแสงสะท้อน

ขนาด 41mm หนา 12.5mm

กันน้ำลึก 10m

ความสามารถต่อต้านอำนาจสนามแม่เหล็ก 4800 A/m (60 gauss)

รุ่น Limited Edition ผลิตเพียง 300 เรือน

ราคาขายส่งประมาณ 577,000 Yen

Model SBGA065

ตัวเรือนrพลาตินั่ม ฝาหลังเปลือย

สายหนังจรเข้ เข็มจัดพลาตินั่ม

กระจก Sapphire แบบ Raised เคลือบกันแสงสะท้อน

ขนาด 40.2mm หนา 12.8mm

กันน้ำลึก 10m

ความสามารถต่อต้านอำนาจสนามแม่เหล็ก 4800 A/m (60 gauss)

รุ่น Limited Edition ผลิตเพียง 30 เรือน

ราคาขายส่งประมาณ 2,100,000 Yen

Quartz

นาฬิกาข้อมือ Caliber 9F62 Quartz ถูกเลือกมาสำหรับโอกาศพิเศษนี้ ความเที่ยงตรงที่ถูกพัฒนาขึ้นมาที 5 วินาที/ปี ด้วยการคัดเลือกผลึก Quartz อย่างพิถีพิถัน สัญลักษณ์ 5 เหลี่ยมคือตัวแทนความเที่ยงตรงนี้นี่เอง

Model SBGX075

เครื่อง 9F62

-บอกเวลาแบบ 3 เข็ม

-แสดงวันที่

-แสดงระดับพลังงานสำรอง

-กลไกเปลี่ยนวันที่ฉับไว

-ระบบปรับอัตดนมัติ

-ทับทิม 9 เม็ด

-แบตเตอรี่อายุการใช้งาน 3 ปี

-ความเที่ยงตรง 5 วินาที/ปี

-ขนาดเครื่อง 26mm x 26.8mm หนา 3.1mm (ไม่รวมแบตเตอรี่)

ตัวเรือนสเตนเลสสตีล

สายสเตนเลสพับ 3 ชั้นพร้อมปุ่มปลดล้อค

กระจก Sapphire ความคมชัดสูงแบบ Dual-curved เคลือบกันแสงสะท้อน

ขนาด 37.0mm หนา 10.0mm

กันน้ำลึก 10m

ความสามารถต่อต้านอำนาจสนามแม่เหล็ก 4800 A/m (60 gauss)

รุ่น Limited Edition ผลิตเพียง 500 เรือน

ราคาขายส่งประมาณ 315,000 Yen

ออโตเมติก

ด้วยมารตฐานของ Grand Seiko ทำให้กลไกออโตเมติคของ Grand Seiko มีมารคฐานสูงกว่า มาตรฐานสากลของ Chronometer อย่างไรก็ตาม สำหรับโอกาศพิเศษนี้มันยังไม่เพียงพอ ดังนั้นกลไกรุ่นใหม่ที่สะสมพลังงานสำรองได้ถึง 72 ชั่วโมงและเที่ยงตรงถึง -1/+5 วินาที/วัน จึงถูกนำมาใช้

Model SBGR065 (หน้าปัดสีขาว)

Model SBGR075 (หน้าปัดสีดำ)

Caliber 9S65

-บอกเวลาแบบ 3 เข็ม

-แสดงวันที่

-ออโตเมติคพร้อมขึ้นลานได้ด้วยเม็ดมะยม

-ทำงานที่ความถึ่ 28,000 vph

-ทับทิม 35 เม็ด

-สำรองพลังงานสูงสุด 72 ชั่วโมง

-ความเที่ยงตรง -1/+5 วินาที/วัน

-ขนาดเครื่อง 28.4mm หนา 6.0mm

ตัวเรือนสเตนเลส ฝาหลังเปลือย

สายสเตนเลสพับ 3 ชั้นพร้อมปุ่มปลดล้อค

กระจก Sapphire ความคมชัดสูงแบบ Dual-curved เคลือบกันแสงสะท้อน

ขนาด 37.0mm หนา 13.3mm

กันน้ำลึก 10m

ความสามารถต่อต้านอำนาจสนามแม่เหล็ก 10,000 A/m (125 gauss)

รุ่น Limited Edition ผลิตเพียง 500 เรือน

ราคาขายส่งประมาณ 472,000 Yen

.

เพิ่มเติมด้วยเครื่องความถี่สูง 36,000 vph มาพร้อมกับความเที่ยงตรงที่มากกว่าที่ -2/+4 วินาที/วัน โลโก้บ่งบอกความพิเศษ "SPECIAL" สีทองประดับไว้บนหน้าปัด ทำให้หวนนึกถึง "Special" รุ่นแรกที่ผลิตในปี 1970

Model SBGH015

Caliber 9S85

-บอกเวลาแบบ 3 เข็ม

-แสดงวันที่

-ออโตเมติคพร้อมขึ้นลานได้ด้วยเม็ดมะยม

-ทำงานที่ความถึ่ 36,000 vph

-ทับทิม 37 เม็ด

-สำรองพลังงานสูงสุด 55 ชั่วโมง

-ความเที่ยงตรง -2/+4 วินาที/วัน (ในสภาวะคงที่)

-ขนาดเครื่อง 28.4mm หนา 6.0mm

.

ตัวเรือนสเตนเลส ฝาหลังเปลือย

สายสเตนเลสพับ 3 ชั้นพร้อมปุ่มปลดล้อค

กระจก Sapphire ความคมชัดสูงแบบ Dual-curved เคลือบกันแสงสะท้อน

ขนาด 40.2mm หนา 13.0mm

กันน้ำลึก 10m

ความสามารถต่อต้านอำนาจสนามแม่เหล็ก 10,000 A/m (125 gauss)

รุ่น Limited Edition ผลิตเพียง 300 เรือน

ราคาขายส่งประมาณ 682,500 Yen

เครดิตบทความ Seiko Watch Corporation

จริงหรือไม่ที่ว่านาฬิกานั้นเป็นแค่เครื่องบอกเวลาหรือเครื่องประดับ

 ก่อนที่ทุก ๆ ท่านจะอ่านบทความนี้ ผมมีคำถามเล็ก ๆ สำหรับทุก ๆ คน โดยขอท่านตั้งคำถามสำหรับตัวท่านในใจว่า นาฬิกาที่อยู่บนข้อมือของท่านที่...