วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553

Seiko Monster กำเนิดแห่งปีศาจท้องทะเล 1


กำเนิดแห่งปีศาจท้องทะเล

ไซโก้ ผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำจากแดนอาทิตย์อุทัยที่มียอดการผลิตนาฬิกาในแต่ละปีนับสิบล้านเรือนและในทุกๆก็มีรุ่นใหม่ๆออกมาเขย่าตลาดเสมอ ไม่ว่าจะยากดีมีจน เด็กหรือคนแก่ต่างก็เข้าใจกันว่า Seiko คือนาฬิกาแบรนด์จากญี่ปุ่นที่ดีและราคาไม่แพง ตัว ไซโก้ เองก็มีนาฬิกามากมายหลายรุ่นที่เหมาะกับการทำกิจกรรมต่างๆไม่เว้นแต่นาฬิกาข้อมือในกลุ่ม Driver ที่เหมาะสำหรับนักดำน้ำที่ต้องการความสมบุกสมบันในราคาไม่แพงและเชื่อถือได้ ฟังดูใครๆก็ทำอย่าง Seiko ได้ แต่ถ้าคิดให้ดีๆว่า บริษัทที่ผลิตนาฬิกาในแต่ปีละหลายสิบล้านเรือนจะผลิตนาฬิกา Driver คุณภาพดีๆ เชื่อถือได้ในราคาหลักพันหลักหมื่นที่ทำงานด้วยกลไกได้ดีแล้วละก็ บอกเลยว่าในโลกนี้หาใครที่จะเทียบเคียงเท่า Seiko คงไม่มีอีกแล้ว และในปัจจุบัน Seiko ก็ยังคงแนวทางนั้นอยู่เหมือนเดิมทุกประการ



 เข้าเรื่องกับเจ้า Monster ตามที่จั่วหน้าไว้ตามหัว เรื่องข้างบนบ้าง เรื่องของเรื่องคือ Seiko ได้ผลิตนาฬิกา Driver หรือเรียกง่ายๆว่านาฬิกาดำน้ำออกมามากมายก่ายกอง รุ่นเหล่านั้นก็ขายดีแบบเรื่อยๆเอื่อยๆ แต่เมื่อย้อยกลับไปไม่กี่ปีมานี้ในช่วงราวปี 2000 Seiko ก็ทำให้เราๆชาวไทยได้รู้จักนาฬิกา Driver รุ่นหนึ่งที่เป็นจุดตำนานความโด่งดังไปทั่วประเทศไทยและทั่วโลกคือ Seiko Monster นั่นเองและก็ต้องยอมรับอย่างภูมิใจว่ารุ่นนาฬิกา Seiko นั้นมีต้นกำเนิดมาจากประเทศไทยและโด่งดังจนเข้าใจและเรียกกันไปไกลทั่วโลกแถม Seikoเองก็ชอบชื่อนี้เสียด้วย ทำให้การแนะนำนาฬิกาในซีรีย์นี้ถูกเรียกขานในชื่อ Monster ไปโดยปริยาย การตั้งชื่อเรียก Monster เกิดจากสองบุคคลที่คลุกคลีอยู่ในวงการนาฬิกามาอย่างยาวนานและถ้าใครเล่นเว็บนาฬิกาต่างๆมานานพอแล้วหละก็ คงพอจำได้หรือคุ้นชื่อทั้งสองท่าน เป็นอย่างดีแน่นอน คงแรกก็คือ ทอมมี่ แห่งเว็บไซต์ Siamnaliga.com และคนที่สองคือคุณ Reto Cascellazzi แห่ง Poorman’s watch forum ชาวสวิตที่พำนักอยู่เมืองไทยและหลงใหลนาฬิกาเช่นกันทั้งสองท่านนี้เป็นคนที่คอยเฟ้นหานาฬิกาดีๆ ราคาไม่แพง มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับบรรดาเพื่อนๆ และสมาชิกเว็บอยู่เสมอ และเมื่อ Moster ออกขายในปี 2000 ก็ยังไม่ดังเปรี้ยงร้าง มากนัก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไรเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะ Seiko ในตอนนั้นไม้ได้คิดว่ารุ่นนี้จะเป็นรุ่นเด่นดังเหมือนในทุกวันนี้ก็เป็นได้ แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปในปี2002 บุคคลทั้งสองท่านก็ได้นำเจ้า Moster มาพูดคุยกับเพื่อนๆที่รู้จักและตั้งชื่อเล่นๆว่า Monster ด้วยหน้าตารูปลักษณ์เหมือน Sea Monster ที่บึกบึน ใหญ่ หนา หนักเป็นที่สุด แต่ประเด็นที่ส่งต่อความดังก็คือ Seiko ได้ผลิตนาฬิกา Driver คุณภาพดีมากๆเรือนกนึ่งในราคาแค่หลักพัน พร้อมคุณสมบัติมากมายเหมือนนาฬิกาDriver ราคาแพง แถมการผลิตก็อยู่ในระดับที่ดีด้วย พูดตรงๆ นาฬิกาแบนด์สวิตบางแบรนด์อาจจะต้องอายม้วนไปก็ได้ ไม่ว่าจะราคาหรือคุณภาพการผลิตและหลังจานั้นชื่อ Monster ก็ได้จารึกอยู่ในใจนักสะสมมากมายและขยายขจรไกลไปทั่วทั้งโลก Monsterในยุคเริ่มแรกนั้นแบ่งออกเป็น 2 รุ่น ก็คือ รุ่น หน้าปัดสีดำSKX779K1 และหน้าปัดสีส้มสดSKX781K1
SKX779K1


SKX781K1

เครดิต หนังสือ 1PM Magazine

การใช้งาน Bezel


การใช้งานขอบบาเซิล
1.วางนาฬิกาข้อมือในแนวราบ(อยู่บนข้อมือได้) ชี้เข็มสั้นเข้าหาดวงอาทิตย์
2.หมุนขอบหน้าปัด Compass Bezel ให้ทิศ “S” อยู่ตรงกลางระหว่างเข็มสั้นกับตำแหน่ง “12” นาฬิกา, สมมุติเข็มสั้นชี้ 10น. ดังนั้น “S” จะต้องหมุนไปที่ตำแหน่ง “11” นาฬิกา …..ในตอนบ่ายก็ใช้วิธีเดียวกันเพียงแต่หมุนให้ “S” อยู่ระหว่างกลางของ ตำแหน่ง “12” นาฬิกา(ด้านขวา)กับเข็มสั้นเช่นเดิม
3.เราสามารถอ่านทิศได้ตาม Compass Bezel ได้เลยครับ ตำแหน่ง, “N” ชี้ไปทิศเหนือ, “S” ชี้ไปทิศใต้…..ตามลำดับครับ
อธิบายเพิ่มเติมครับ, นาฬิกาข้อมือส่วนใหญ่เป็นแบบ 12 ชม. สมมุติว่าดวงอาทิตย์ขึ้น 06:00 ตกเวลา 18:00 หมายความว่าดวงอาทิตย์โคจรจาก…..ขอบฟ้าทิศตะวันออกไป ขอบฟ้า ยังทิศตะวันตก ……180 องศา, ในขณะที่นาฬิกาหมุนจาก 06:00-18:00 ……360 องศา ดังนั้นเข็มสั้นของนาฬิกาจะเดินทาง 30 องศา ทุกๆชั่วโมงในขณะที่ดวงอาทิตย์เดินทาง 15 องศา ทุกๆชั่วโมงเป็นเหตุให้เราต้องชดเชยการเปลี่ยนมุมโคจรของดวงอาทิตย์โดยการหมุน “S” ให้เริ่มเดินทางจากตำแหน่ง “9” นาฬิกาและจบที่ “15” นาฬิกา และปรับให้องศาของดวงอาทิตย์เปลี่ยนเพียง 15 องศาทุกชั่วโมงโดยการหมุนให้ “S” อยู่ระหว่างกลางของเข็มสั้นกับ “12” นาฬิกา
ในตอน 06:00 ลองดูนะครับ เราชี้เข็มสั้นไปที่ดวงอาทิตย์ “S” จะต้องหมุนมาที่ ตำแหน่ง “9” นาฬิกา…..ดังนั้น “E” จะถูกหมุนมาอยู่ตำแหน่งเดียวกับ 06:00 นาฬิกาและจะชี้ไปทางดวงอาทิตย์ คราวนี้เราก็จะอ่านทิศจาก Compass Bezel ได้แล้วละครับ
ตอน 12:00 ทั้งเข็มสั้นและ “S” จะชี้ไปที่ดวงอาทิตย์, เนื่องจากแกนโลกเอียงดังนั้นตำแหน่งดวงอาทิตย์จะไม่อยู่ตรงศรีษะครับ…จึงสามารถหมุนนาฬิกาให้เข็มสั้นชี้เข้าหาดวงอาทิตย์ได้เสมอ
สำหรับประเทศใต้เส้น Equator ทำตรงข้ามโดยการหมุน “N” อยู่ระหว่างกลางเข็มสั้นกับ “12” นาฬิกาครับ
ขอให้มีความสุขและสนุกกับการหมุนเข็มทิศ….ครับผม
ข้อมูลจากเว็บ สยามนาฬิกา

วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553

นาฬิกาข้อมือ Casio G-Shock GA-100 Series GA-100-1A2DR

นาฬิกาข้อมือ แข็งแรงทนทานตามแบบฉบับ G-Shockหน้าจอ2ระบบ ตัวเรือนและสายเรซิ่นสีดำเข็มและหลักบอกชั่วโมงสีน้ำเงิน ตัวเรือนใหญ่ ที่รวมเอาแบบเข็มอนาลอคและ LCD ไว้ด้วยกันเพื่อความเป็นเลิศในการใช้งานคนรัก G-Shockไม่ควรพลาด
GA-100-1A2DR
กันสะเทือน G-SHOCK กันสนามแม่เหล็กตามมาตรฐาน ISO กันน้ำลึก 200 เมตร ไฟ LED Auto light switch,selectable illumination duration, afterglow บอกเวลา 48 เมืองใหญ่ทั่วโลก จับเวลาเดินหน้า,ถอยหลัง ตั้งปลุก 5ครั้ง/วัน ปฏิทินอัตโนมัติ ถึงปี 2039 ขนาด 55 X 51.2 X 16.9mm น้ำหนัก 70g

วันศุกร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2553

นาฬิกาข้อมือ Seiko Vintage Automatic Shapphire SRP023K1

Seiko Vintage Shapphire SRP023K1 นาฬิกาสไตล์วินเทจ หน้าปัดขาว ตัวเรือนสแตนเลสสตีล หน้ากลม ขนาดตัวเรือน 40 mm เข็มดาบ สุดคลาสสิค หลักชั่วโมงแบบตัวเลขโรมัน แสดงวันที่ หน้าปัดพิมพ์ลาย ฝาหลังเปลือยโชว์กลไกออโตเมติกชั้นสูงรุ่นใหม่ 4R15 ให้ความเที่ยงตรงสูง เข้ากับสายหนัง กระจกแซฟไฟร์กันรอย กันน้ำลึก 50 m สวยไม่ส่างครับตัวนี้

นาฬิกาข้อมือ เครื่อง 1จังหวะ และ 2จังหวะ

มารู้จักเครื่อง 1จังหวะ และ 2จังหวะในนาฬิกาข้อมือไขลานหรือออโตเมติกที่ขึ้นลานได้ เริ่มที่เครื่อง 1จังหวะหรือจังหวะเดียวนั้นโดยปรกติเม็ดมะยมจะอยู่ในตำแหน่งขึ้นลานได้ด้วยมือหรือฟรีแล้วแต่เครื่อง รุ่นนั้นๆ เมื่อต้องการตั้งเวลาให้ดึงเม็ดมะยมออกมา ไม่สามารถตั้งวันที่แบบเร็วได้ ต้องหมุนเข็มชั่วโมงให้ผ่านไปเรื่อยๆจนวันที่เปลี่ยนค่า ซึ่งมักพบเห็นได้ในนาฬิการุ่นเก่า
.
 เครื่อง 2จังหวะโดยปรกติเม็ดมะยมจะอยู่ในตำแหน่งขึ้นลานได้ด้วยมือหรือฟรีแล้วแต่เครื่อง รุ่นนั้นๆ และเมื่อดึงเม็ดมะยมออกมาหนึ่งระดับจะสามารถตั้งวันและวันที่ได้โดยรวดเร็ว ถ้าต้องการตั้งเวลาให้ดึงเม็ดมะยมออกมาอีกหนึ่งระดับ ซึ่งจะพบเห็นในนาฬิกาข้อมือยุคปัจจุปันส่วนมาก เนื่องจากให้ความสะดวกรวดเร็วและช่วยยืดอายุกลไกภายในตัวเครื่องที่ไม่ต้องหมุนตั้งวัน วันที่กันหลายๆรอบ

วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

นาฬิกาข้อมือ Rado Ceramica Digital Automatic

นาฬิการาโด้
พลิกโฉมวงการนาฬิกาข้อมือด้วยกลไกอัตโนมัติแบบพิเศษ ที่แสดงผลในรูปดิจิตอล โดยกลไกอัตโนมัติ Cal. E18.711 จะทำหน้าที่ส่งพลังงานและเก็บกักพลังงานสำหรับการแสดงผลไว้และแสดงเวลาผ่านหน้าปัด Digital โดยมีระยะเวลาสำรองพลังงานได้ 120วัน เมื่อนาฬิกาไม่ได้รับพลังงานเพิ่มเติม
ด้วยตัวเรือนคมเข้ม ทรงเหลี่ยม PVD ซ้อนอยู่ในเซรามิค มาพร้อมกับสายเซรามิค ที่ทนทานรอยขีดข่วนไดเป็นอย่างดี เป็นลิขสิทธ์เฉพาะ Rado ด้วยส่วนผสมของ
Hi-Tech Ceramic แบบพิเศษที่ทาง Radoได้คิดค้นขึ้น

Seiko Diver's 200m Kinetic SKA385P1

ไซโก้ นาฬิกาดำน้ำ 200m Kinetic SKA385P1 Kinetic ตัวนี้สวยดีครับเหลืองได้ใจ นาฬิกาข้อมือตัวใหญ่จากไซโก้ในตระกูลนาฬิกาดำน้ำ ของไซโก้ ท่านที่ชอบตัวใหญ่บึกบืนไม่ผิดหวัง สามารถเช็คพลังงานโดยกดปุ่มตรง 2นาฬิกาโดยเช็คพลังงานที่เหลือ จากเข็มวินาที แสดงวันที่ตรงสามนาฬิกา เหมาะกับคนข้อมือใหญ่ มีน้ำหนักพอสมควร

จริงหรือไม่ที่ว่านาฬิกานั้นเป็นแค่เครื่องบอกเวลาหรือเครื่องประดับ

 ก่อนที่ทุก ๆ ท่านจะอ่านบทความนี้ ผมมีคำถามเล็ก ๆ สำหรับทุก ๆ คน โดยขอท่านตั้งคำถามสำหรับตัวท่านในใจว่า นาฬิกาที่อยู่บนข้อมือของท่านที่...