วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

HERMES. Cape Cod Grandes Heures‏



ผลงานใหม่ล่าสุดจากแนวคิดสุดบรรเจิดและการสร้างสรรค์นวัตกรรมกลไก รวมถึงรูปแบบของการแสดงเวลาที่ช่วยให้เราเสมือนสามารถยืดเวลาอันล้ำค่าและช่วงเวลาแห่งความสุขไว้กับเราได้ยาวนานขึ้น จากช่วงความห่างของแต่ละชั่วโมงที่เรากำหนดความแตกต่างได้ตามใจชอบ เช่น หากเวลาการพักผ่อนของเรามักเป็นช่วง 11.00-12.00 นาฬิกา เราก็กำหนดให้ความห่างของชั่วโมงนี้กว้างขึ้นได้กว่าชั่วโมงอื่นๆ เช่นเดียวกับการเคลื่อนตัวของเข็มชี้ชั่วโมงที่กำหนดความเร็วด้วยเทคนิคพิเศษไว้เช่นกัน ส่วนสเกลและเข็มชี้นาทีและวินาทีทำงานตามปกติ ติดตั้งไว้บนหน้าปัดสีเงินหรือสีเทาแอนทราไซต์ แต่งด้วยลวดลายสุดประณีต ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติเติมโมดูลของ Grand Hours เข้าไปในชิ้นส่วนประกอบ 133 ชิ้น กับการสำรองพลังงานได้นาน 42 ชั่วโมง ในตัวเรือนสเตเลสสตีล 316L ขนาด 36.5*35.4 มิลลิเมตร ผนึกกระจกคริสตัลแซพไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อน ประสิทธิภาพการกันน้ำได้ลึกระดับ 50 เมตร มาพร้อมสายหนังจระเข้สีน้ำตาลหรือสีตะกั่วดำ


Case : 316L stainless steel, 36.5*35.4mm, antireflective sapphire crystal
Dial : silvered or anthracite
Movement : automatic, Grandes Heures module, 133 components, 42-hour power reserve
Function : hours (variable speeds), minutes, seconds
Strap : Matt Havana brown or graphite alligator


วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

25 กฏเหล็กสำหรับนักสะสมนาฬิกา


25 กฏเหล็กสำหรับนักสะสมนาฬิกา
1) อย่ายอมแพ้ถ้าอยากได้โรเล็กซ์และล่ะก็อย่าเอาตังค์ไปซื้อไซโก้ เก็บเงินไว้ซื้อโรเล็กซ์อย่างเดียว ถ้าทนไม่ไหวก็ซื้อของมือสอง
2) จ่ายเงินสดถ้าเป็นไปได้อย่าชักนั่นมาจ่ายนี่ หลีกเลี่ยงการใช้บัตรเครดิต เพราะดอกเบี้ยจะกลบส่วนลดหมด ซื้อตามกำลังที่มี
3) ซื้อให้ตัวเอง ไม่ใช่ซื้อตามใจคนอื่นถ้าคุณพิจารณามานานแล้วจะมีบางคนมาขัดคอเสมอ ซื้อให้กับตัวเองไม่ใช่ซื้อเพื่อเอาใจคนอื่น
4) พิจารณาที่เครื่องพิจารณา ที่เครื่องของนาฬิกา เลือกเครื่องที่โรงงานผลิตเองอย่างเช่น Zenith El Primero, Piguet, Lemania, Venus... แต่อย่าซื้อแบบที่คุณไม่ชอบ ถึงแม้เครื่องจะสำคัญแต่มันก็อยู่ข้างใน มองไม่เห็น
5) เลือกโรงงานผู้ผลิตมีผู้ผลิตที่ยอดเยี่ยม แต่อย่าซื้อเพราะชื่อเสียง Patek เป็นยี่ห้อหนึ่งที่ดีมาก ถ้าไม่มีผู้ผลิตดีๆหรือดีไซน์ไม่สวยก็อย่าไปซื้อ
6) คุณจะไม่กลายไปเป็นเหมือนนาฬิกานาฬิกา จะไม่เปลี่ยนแปลงคุณ มันเป็นแค่นาฬิกา ไอสไตน์มี Patek, Hemigway ใส่โรเล็กซ์และโอเมก้า ถึงคุณจะใส่ Patek มันก็ไม่ทำให้คุณเป็นอัจฉริยะ โอเมก้าหรือโรเล็กซ์ก็ไม่ทำให้คุณเขียนหนังสือได้ดีขึ้น
7) ขนาดเป็นเรื่องสำคัญนาฬิกาเรือนใหญ่เหมือนจานและมีสไตล์ บางเรือนก็สวยมากๆ ต้องดูขนาดข้อมือของคุณด้วย ถ้าข้อมือเล็กแล้วใส่นาฬิกาเรือนใหญ่เกินไปมันจะดูไม่เข้าท่า ถ้าซื้อนาฬิกาเรือนใหญ่ต้องแน่ใจว่าแขนเสื้อของคุณสามารถใส่ทับนาฬิกาได้ ไม่ต้องไปแก้แขนเสื้อให้มันใหญ่ขึ้น
8) ซื้อประกันด้วย
คุณจะได้นอนหลับสบาย
9) จะมีราคาที่ถูกกว่าเสมอ
หลังจากคุณซื้อได้ไม่นาน คุณจะพบว่าบางรุ่นจะมีราคาถูกกว่า นั่นเป็นเรื่องตลกนิดหน่อยในชีวิตคนเรา อย่าไปคิดมาก
10) จำไว้เสมอว่าคนขายนาฬิกาเค้าเน้นขายนาฬิกาอย่างเดียวเท่านั้น
11) การเดินทางมีอะไรสนุกกว่าจุดหมายปลายทาง
หลังจากซื้อมาแล้วคุณอาจจะผิดหวัง ช่างมันเถอะ มันเป็นเรื่องธรรมดา
12) ถ้าพังก็ซ่อมคนคือความผิดพลาด มันดีกว่าที่จะแก้ไขความผิดพลาดแทนที่จะทนอยู่กับมัน ถ้าคุณไม่ชอบนาฬิกาที่ซื้อมาจริงๆก็กำจัดมันซะ
13) เลือกสีไม่ว่าจะสเตนเลส ทองคำขาว พลาตินั่ม สายเหล็ก เข็มขัดสีดำ ทุกๆอย่าง
ทองคำ 18K กับสายหนังสีดำมันดูจัดเกินไป แต่ถ้าเป็นสายหนังสีน้ำตาลจะออกหรูแบบสบายๆ หน้าปัดสีขาวเข้ากับเสื้อผ้าได้ดีและดูเวลาง่าย หน้าปัดสีดำดูเจ๋งและออกแนวสปอร์ต

14) ความเที่ยงตรงก็มีส่วน
นาฬิกา อัตโนมัติของคุณไม่เที่ยงตรงเท่านาฬืิกาควอทซ์ อย่างไรก็ตามมันสามารถเดินได้เที่ยงตรงถึง 99% จะคลาดเคลื่อนบ้างก็แค่ 1/80,000 วินาทีต่อวันซึ่งเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์
15) ดูแลนาฬิกาที่ดีของคุณ
เอาไปเข้าศูนย์ ทำความสะอาด มันจะอยู่กับคุณได้นานขึ้น
16) นี่คือความอยาก ไม่ใช่ความจำเป็น
ไม่ มีใครจำเป็นที่จะต้องมีนาฬิกาหรูๆ มันเป็นความอยากได้ ถ้าคุณถามตัวคุณเองว่าคุณจำเป็นจะต้องมีมันไหม? คำตอบที่ซื่อสัตย์จะบอกว่า ไม่จำเป็นเสมอ
17) อย่าซื้อนาฬิกาเพื่อเก็งกำไรนาฬิกา บางเรือนจะคงมูลค่าอยู่ แต่เกือบทั้งหมดไม่เป็นเช่นนั้น นาฬิกาที่มีราคาจะเป็นนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์ และคนที่จะมีโอกาศได้ประโยชน์ก็จะเป็นรุ่นหลานของคุณ
18) ไม่มีนาฬิกาเรือนไหนที่จะถูกใจคุณทั้งหมด
19) ยิ่งคุณรู้มากเท่าไหร่ ยิ่งไม่จำเป็นสำหรับคุณมากเท่านั้นชุดสะสมคุณภาพดี 4 เรือนย่อมดีกว่าชุดคุณภาพปานกลาง 10 เรือน
20) สลักฝาหลังถ้าเป็นของขัญชิ้นพิเศษเท่านั้น
21) ซื้อนาฬิกาที่คุณจะใส่ ไม่ใช่เพื่อบางโอกาสอย่าวิ่งออกไปซื้อนาฬิกาแฟชั่นเพื่อใส่แค่ในคืนพิเศษเพียงคืนเดียว คุณมีเรือนที่พอจะใส่ได้อยู่แล้ว หรือไม่ต้องใส่มันซะเลย
22) ใส่มัน
ถ้าไม่ได้ใส่มา 2 เดือนแล้วหมายความว่าคุณไม่ชอบมันแน่ๆ หาเรือนที่คุณชอบ
23) รุ่น Limited เป็นแค่การโฆษณา
มีจำกัดเพียง 5,000 เรือนหรือ 2,000 เรือนไม่ใช่ Limited ถ้าจะให้ Limited แท้ๆต้อง 30, 10 หรือแค่ 1 เรือน
24) ไม่ต้องดูว่ามันเหมาะสมกับคนอื่นหรือเปล่านอกจากตัวคุณเอง
บางวันคนโน้นอาจจะพูดว่า คุณซื้อนาฬิกาเรือนนนี้มาแพงเกินไป คุณไม่จำเป็นต้องอธิบาย และเขาก็จะไม่เข้าใจอยู่ดี
25) อย่าเห็นคนอื่นใส่ Patek แล้วอิจฉา ดูนาฬิกาที่คุณใส่อยู่แล้วก็มีความสุขกับมัน อย่าวัดคนด้วยนาฬิกาที่เขาสรวมใส่รวมทั้งตัวคุณเองด้วย

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554

The Time, The Watch & The Wardrobe‏

ในช่วงชีวิตของผู้ชายคนหนึ่งก็คงจะมีโอกาสให้ซื้อนาฬิกาได้อยู่หลายเรือน อาจจะเป็น Swatch ที่ซื้ออย่างไม่ได้คิดอะไรมากนัก หรือนาฬิกาเรือนแรกที่ซื้อเมื่อเริ่มทำงาน และนาฬิกาที่คนรักซื้อให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน QP เลือกนาฬิกามานำเสนอคุณ 5 เรือนครับ เพื่อให้ครบทุกมู้ดทุกอารมณ์ทุกสไตล์ความชอบและทุกโอกาสที่จะสวมใส่

IWC Pilot Mark XVI


IWC Mark II เป็นนาฬิกานักบินยอดนิยมตลอดกาลรุ่นหนึ่ง และ Mark XVI ก็เป็นตัวแทนที่คู่ควรด้วยเครื่องที่ทนทานและเที่ยงตรง หน้าปัดเรียบง่ายอ่านเวลาสะดวก ทั้งหมดอยู่ในตัวเรือนที่แข็งแกร่ง เรียกได้ว่าแกร่งพอที่จะใส่เล่นกีฬาได้ แต่ถ้าจะใส่ไปงานเลี้ยงหรูๆ ก็ไม่ดูผิดที่ผิดทางแต่อย่างใด เป็น "นาฬิกาจริงๆ" เรือนแรกสำหรับข้อมือคุณได้เลย

Rolex Submariner

Rolex Submariner
นาฬิกาสุดคลาสสิก Submariner รุ่นแรกออกสู่สายตาประชาชนในปี 1954 และทุกวันนี้ก็เป็นนาฬิกาหรูที่ผู้คนรู้จักแพร่หลายที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก Submainer เป็นนาฬิกาแบบชัวร์ๆ ที่บ่งบอกถึงความมีระดับแต่ไม่ต้องมีลูกเล่นอะไรเยอะเกินไป เมื่อมีนาฬิการุ่นนี้อยู่บนข้อมือก็เหมือนกับว่าคุณได้เดินทางมาถึงความสำเร็จจุดสำคัญระดับหนึ่งในชีวิตแล้ว


Jaeger-LeCoulter Reverso

Jaeger-LeCoulter Reverso เป็นนาฬิกาที่มีดีไซน์โดดเด่นที่สุดรุ่นหนึ่งในโลกอยู่แล้วและในปีนี้ก็มีอายุครบ 80 ปีพอดิบพอดีด้วย นาฬิการุ่นนี้ถือกำเนิดขึ้นในยุค 1930 สำหรับนักกีฬาโปโลในอินเดียสมัยที่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ตัวเรือนของนาฬิการุ่นนี้สามารถหมุนพลิกกลับได้เพื่อปกป้องตัวเองจากการกระทบกระแทกขณะลงสนาม Reverso นี้ใส่กันได้ใส่กันดีตั้งแต่เซเลบจนถึงเจ้าขุนมูลนาย Reverso เป็นนาฬิกาอมตะเหนือกาลเวลาซึ่งไม่ว่าจะปรับและเปลี่ยนอย่างไรก็ไม่เคยทิ้งลุคอาร์ตเดคโค่เดิมๆ ไปเลย


Ulysses Nardin

พอคุณมีนาฬิกาเบๆ ครบทุกอารมณ์แล้ว ก็ถึงเวลาที่จะก้าวขึ้นไปเล่นอะไรที่แปลกและแตกต่างบ้าง Ulysse Nardin Freak Diavolo เป็นนาฬิกาที่แหวกแนวได้สะใจเหมือนกับ Ulysse Nardin อีกหลายรุ่นก่อนหน้านี้ มีเทคโนโลยี วัสดุ และดีไซน์อันล้ำสมัย ที่สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งการทดลองและคิดค้นของแบรนด์ เช่นเดียวกับพี่น้องในตระกูล Freak รุ่น Diavolo ของปี 2011นี้ ถือเป็นนวัตกรรมที่มีความเทคนิคอลอย่างเต็มเปี่ยมและผลิตในจำนวนจำกัดจริงๆ เช่นนี้แล้วจึงทำให้ Ulysse Nardin เป็นแบรนด์ที่ผู้คนให้ความสนใจด้วยเหตุผลดีๆ ทั้งสิ้น

TAG Heuer Monaco‏

Heuer Monaco รุ่นแรกออกสู่ตลาดเมื่อปี 1969 เป็นนาฬิกาที่ที่มีทั้งสไตล์และประวัติอันน่าสนใจ นาฬิการุ่นนี้เป็นนาฬิกาจับเวลาเครื่องขึ้นลานอัตโนมัติรุ่นแรกๆ และเป็นนาฬิกาที่ Steve McQueen ใส่ในภาพยนตร์รถแข่งเรื่อง Le Mans ในปี 1972 ทุกวันนี้ Monaco ยังคงเป็นนาฬิกาที่มีความพิเศษแตกต่างจากนาฬิกาทั่วไป และผู้ใส่จะต้องมีความมั่นใจในระดับหนึ่งด้วย

บทความดีๆ อ่านเพิ่มเติมได้ที่
QP-DEVOTED TO FINE WATCHES Thai Edition
Issue 39 September

Seiko Premier Jet Black มหาบุรุษแห่งรัติกาล‏




เมื่อความคลาสสิกมาผสานกับความโมเดิร์ กำเนิดเรือนเวลาสุดพิเศษ 'Permier' จุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ภายใต้ความคลาสสิกมีระดับ เพื่อรสนิยมของผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่รวมเอาฟังก์ชั่นและนวัตกรรมแห่งเครื่องบอกเวลาอย่างสมบูรณ์แบบ
'ไซโก' เผยโฉมสุภาพบุรุษแห่งรัติกาล 'Premier- 'Jet Black' Kinetic Perpetual' (พรีเมียร์-'เจ็ตแบล็ก' คีเนติก เพอร์เพ็ตชวล) รุ่นพิเศษเพื่อการครบรอบ 130 ปี SEIKO ในปี 2011 นี้เป็นการผสมผสานสุดยอดดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของพรีเมียร์ กับตัวเรือนสเตนเลสสตีลรมดำแบบ Hard Coat สุขุม ลึกลับ และน่าค้นหาดั่งชายหนุ่มผู้มาพร้อมกับเงามืดแห่งรัติกาล ลงตัวกับสายหนังแท้ชั้นเยี่ยมสุดเนี้ยบ เข้ากับตัวเรือนได้อย่างลงตัว กระจกหน้าปัดแซพไฟร์กันรอยขีดข่วน ที่สำคัญขับเคลื่อนเวลาด้วยระบบ Kinetic อันสะสมพลังงานจากการเคลื่อนไหวได้ยาวนานสูงสุดถึง 72 ชั่วโมง ครบเครื่องด้วยระบบ Auto Relay ที่พร้อมจะปลุกเรือนเวลาจากการหลับไหล แม้ยาวนานถึง 4 ปีให้กลับมา ณ เวลาปัจจุบัน โดยไม่ต้องปรับตั้งเวลาใหม่ได้ทันทีเพียงแค่คุณเขย่า สุดเพอร์เฟ็กต์ด้วยฟังก์ชั่น Perpetual Calendar ปรับวันที่ให้อัตโนมัติแม้ในปีอธิกสุรทิน จนถึงปี 2100
พบกับ SEIKO 'Premier-Jet Black' มหาบุรุษแห่งรัติกาลได้ที่เคาน์เตอร์ไซโก ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำและร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ (ราคาเรือนละ 32,590 บาท)

วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Saxonia Dual Time

A.Lange & Sohne‏ Saxonia Dual Time



เปิดตัวสมาชิกใหม่ในตระกูล แซ็กโซเนีย (Saxonia Dual Time) ที่ผสมผสานเรือนเวลาคุณภาพเข้ากับความคลาสสิคร่วมสมัย ด้วยตัวเรือนที่ผลิตจากทองขาวหรือทองชมพู 18k ขนาด 40.0 มิลลิเมตร คู่พื้นหน้าปัดเงิน บรรจุกลไกอัตโนมัติ Calibre L.086.2 ที่ได้รับการออกแบบขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เสริมด้วยจักรกลปรับตั้งเข็มพิเศษสำหรับการแสดงเวลาไทม์โซนที่สอง



ส่วนเวลาท้องถิ่นสามารถปรับตั้งค่าผ่านปุ่มกดสองปุ่มด้านข้างตัวเรือน สำรองพลังงานจากการขึ้นลานด้วยโรเตอร์ ณ ศูนย์กลางที่ผลิตจากแพลทินัม 950 เมื่อไขลานเต็มสามารถสำรองพลังงานได้ยาวนานถึง 72 ชั่วโมง ตัวเรือนประกอบเข้ากับสายหนังสีน้ำตาลหรือสีดำ




Case : 18k white gold or pink gold, 40.0 mm diameter
Dial : silver
Movement : automatic calibre L.086.2
Function : hours, minutes, second and 2 timezones
Strap : black or brown leather

วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554

OMEGA Moon Watch จุดสูงสุดคือการยอมรับ‏

มีใครบ้างไม่รู้จักนาฬิกา Omega?



หากเอ่ยถึง โอเมก้า ( Omega ) หลายคนคงร้องอ๋อ เพราะนาฬิกาแบรนด์นี้มีต้นกำเนิดมาอย่างยาวนาน และเบื้องหลังความสำเร็จยังอยู่ที่เรือนเวลาทุกเรือนที่การันตีคุณภาพ กว่า Omega จะมายืนอยู่แถวหน้าของเรือนเวลาระดับโลกต้องผ่านอะไรมามากมาย ซึ่งในช่วงทศวรรษ 1950 นาฬิกาแบรนด์ต่างๆ เริ่มเข้าสู่ยุคแห่งการแย่งชิงการเป็นผู้นำทางการตลาดโดยใช้คุณสมบัติการ แสดงค่าและจับเวลาอย่างเที่ยงตรงของนาฬิกาเป็นจุดขาย ซึ่งหลายแบรนด์พยายามพัฒนาคุณภาพและคิดกลไกใหม่ๆ ให้กับเรือนเวลา และส่งให้องค์การและสถาบันกลางของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทำการตรวจสอบและรับรองการันตีคุณภาพ ซึ่งนาฬิกาของ Omega เป็นแบรนด์ที่ทำลายสถิติความเที่ยงตรงจากการแข่งขันในหลายเวทีการประลอง คุณภาพ โดนในปี 1969 เป็นอีกครั้งที่นาฬิกา Omega ถูกจารึกลงในหน้าประวัติศาสตร์เพราะเป็นนาฬิกาแบรนด์แรกของโลกที่สามารถขึ้น ไปสู่ดวงจันทร์



จากวันนั้นชื่อเสียงของ Omega ก็โดดเด่นและโด่งดัง สามารถสร้างยอดขายได้อย่างท่วมท้น และทำให้นาฬิกาคอลเลกชั่น Speecmastre ได้รับชื่อเล่นใหม่ที่เรียกกันติดปากว่า Moon Watch โดยรุ่นแรกที่ผลิตออกมาคือ CK2918 ที่ผลิตในปี 1957 และหลังจากนั้นก็ผลิตผลงานออกมาเรื่อยๆ แต่ยังคงรูปแบบเดิมและประสิทธิภาพในการทำงานที่แสดงค่าและจับเวลได้อย่าง เที่ยงตรง



โดยในปีที่ผ่านมาได้ส่งสมาชิกน้องใหม่อย่าง Speedmaster Professional Apollo-Soyuz 35" Anniversary เพื่อรำลึกถึงโอกาสครบรอบ 35 ปีของภารกิจ Apollo-Soyuz Test Project โดยนาฬิการุ่นดังกล่าวผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,975 เรือนเท่านั้น

ทำไมนาฬิกา Omega คอลเลกชั่น Speedmaster Professional ถึงมีคำว่า Professional ต่อท้าย‏



ช่วงต้นทศวรรษ 1960 ในเวลานั้น NASA กำลังดำเนินโครงการทดสอบทางอวกาศ Mercury และกำลังเริ่มต้นโครงการใหม่ GEMINI หรือการส่งคนออกไปนอกยานเพื่อลอยไปลอยมาและทำการทดลองต่างๆโดยนาฬิกาที่จะถูกเลือกใส่เพื่อจับเวลาจะต้องทนทุกสภาวะอากาศทั้งความกดดันอากาศ สภาพสูญญากาศและอุณหภูมิที่ติดลบ ทาง NAZA ได้คัดเลือกนาฬิกามาหลายแบรนด์และทำการทดสอบต่างๆ จนเหลือเพียงนาฬิกา Omega Speedmaster เรือนเดียวเท่านั้นที่ผ่านการทดสอบ และในปี 1965 Mission GEMMINI 4 นักบิน Edward White ก็ใส่นาฬิกา Omega Speedmaster เพื่อจับเวลาการลอยไปลอยมาในอากาศ ดังนั้นในปี 1966 Omega จึงเพิ่มคำว่า PROFESSIONAL ต่อท้ายชื่อ Speedmaster บนหน้าปัด เพื่อเฉลิมฉลองการยอมรับจาก NASA ที่เลือกใช้นาฬิกาคอลเลกชั่นดังกล่าวในโครงการทางอวกาศ

จริงหรือไม่ที่ว่านาฬิกานั้นเป็นแค่เครื่องบอกเวลาหรือเครื่องประดับ

 ก่อนที่ทุก ๆ ท่านจะอ่านบทความนี้ ผมมีคำถามเล็ก ๆ สำหรับทุก ๆ คน โดยขอท่านตั้งคำถามสำหรับตัวท่านในใจว่า นาฬิกาที่อยู่บนข้อมือของท่านที่...