แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ นาฬิกาข้อมือ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ นาฬิกาข้อมือ แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553

TAG HEUER 150 Anniversary Thailand Limited Edition

TAG HEUER

Carrera Automatic Chronograph Calibre 16 Day-Date 150 Anniversary Thailand Limited Edition

ตัวแทนแห่งสายสัมพันธ์ ชื่อของ TAG Heuer (แทค ฮอยเออร์) เป็นที่รู้จักในหมู่คนรักนาฬิกาชาว ไทยเป็นเวลานานกว่าครึ่งศตวรรษ รับใช้ในฐานะเพื่อนคู่ข้อมือซึ่งทำหน้าที่บอกเวลาด้วยมาตรฐานระดับสูงพร้อม รูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ ก่อเกิดสายสัมพันธ์อันดีระหว่าง TAG Heure และประเทศไทยและในโอกาสครบรอบ 150 ปีของ TAG Heure จึงขอย้ำความผูกพันอันยาวนานด้วยคอลเลกชั่นพิเศษ Carrera Automatic Chronograph Calibre 16 Day-Date 150 Anniversary Thailand Limited Edition (คาร์เรรา ออโตเมติก โครโนกราฟ คาบิเบรอ 16 เดย์-เดท 150 แอนนิเวอร์ซารี ไทยแลนด์ ลิมิเต็ด เอ

Carrera เป็นชื่อที่ได้รับมาจากการแข่งขันรถยนต์ในสภาวะหฤโหด ‘Carrera Panamericana’ (คาร์เรรา แพนอเมริ กานา) ในประเทศเม็กซิโกตั้งแต่ปี 1964 นาฬิการุ่นนี้จึงมีเอกลักษณ์ด้านดีไซน์ที่เน้นความสปอร์ต ผสานกับสมรรถนะแห่งคุณภาพเหนือระดับสร้างความประทับใจให้คอนาฬิกาข้อมือทั่ว โลกอย่างไร้ข้อบกพร่อง และในรุ่นที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อคนไทยนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ ผ่านตัวเรือนสเตนเลสสสตีลขนาด 43.0 มิลลิเมตร กับน้ำได้ลึก 100 เมตร วงแหวนขอบตัวเรือนประดับ ‘Tachymeter Scale’ (ทาคีมิเตอร์ สเกล) ผลิตจากอะลูมิเนียมสีดำขลับ รับกับพื้นหน้าปัดสีเดียวกันแสดงเวลาแบบ 2 เข็มครึ่ง โดยแยกเข็มวินาทีออกไปไว้ในหน้าปัดย่อยที่ 9 นาฬิกา เดินอย่างสะดุดตาอยู่บนผืนธงไตรรงค์พร้อมข้อความ ‘150 Anniversary Thailand Limited Edition’ ล้อมตามแนวขอบจักเวลาผ่านเข็มวินาทีสีแดงสดร่วมกับวงหน้าปัดย่อยที่ 12 และ 6 นาฬิกา ซึ่งทำหน้าที่จับเวลา 30 นาทีและ 12 ชั่วโมงตามลำดับ เติมเต็มประโยชน์ใช้สอยอย่างสมบูรณ์แบบด้วยช่องหน้าต่างยาว ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกาซึ่งเจาะไว้เพื่อแสดงวันและวันที่ ควบคุมการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วยกลำกโครโนกราฟอัตโนมัติ Cal.16 ซึ่งขัดแต่งอย่างพิถีพิถัน โดยสามารถชมความสามาถของกลไกผ่านฝาหลังที่ผนึกด้วยคริสตัลแซพไฟร์ พร้อม สัญลักษณ์ ‘Tag Heuer 150 Anniversary’ คอเลกชั่นพิเศษนี้ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเพียง 100 เรือนเท่านั้น และสำหรับทุกคนที่มีโอกาสได้ครอบครองนาฬิการุ่นพิเศษนี้ จะได้รับหนังสืออนุสรณ์ ‘TAG Heuer: 150 Years’ โดยเป็นหนังสือภาพที่แสดงเรื่องราวที่น่าสนใจต่างๆ เกี่ยวกับ TAG Heuer ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ด้วยความหนากว่า 200 หน้า เป็นที่ระลึกอีกด้วย นับเป็นความพิเศษสำหรับคนไทยที่มาพร้อมความยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง

จากหนังสือ Watch World-Wide

วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

นาฬิกาข้อมือ ไซโก้ Sportura Kinetic Chrograph

Sportura Kinetic Chrograph

นาฬิกาข้อมือ ไซโก้ Sportura Kinetic Chrograph สปอร์ตโครโนกราฟที่พัฒนาการดีไซน์พร้อมฟังก์ชันพิเศษ นำเอาเทคโนโลยีของระบบจักกลรุ่นใหม่ล่าสุด Kinetic นวัตกรรมหนึ่งเดียวของ SEIKO ที่ผสมผสานไว้ในนวัตกรรมเรือนสปอร์ตรุ่นล่าสุด โครโนกราฟฟังก์ชัน จับเวลาได้ละเอียดถึง 1/5 วินาที ได้นาน 45 นาที สำรองพลังงานได้นานถึง 5 เดือน กระจกคริสตัลซัฟไฟร์ที่กันแสงสะท้อนและรอยขีดข่วน เม็ดมะยมเกลียว ตัวเรือนเรือนสเตนเลสสตีล โดยเคลือบ Black IP Coating ฝาหลังเปลือยให้เห็นการทำงานของเครื่อง กันน้ำ 100 เมตร มีให้เลือก 2 สไตล์สายหนังสปอร์ตสีดำเข้มที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลวดลายของชิ้นส่วนรถแข่ง เอฟวัน (SNL043P2) และเท่อย่างมีระดับอีกสไตล์กับสายสเตนเลสสตีล (SNL043) สาวกไซโก้ อย่าพลาด

วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2553

ไซโก้ กลไกแห่งการพัฒนา Seiko in Number

ตำนานของไซโก้ คือตำนานขององกรค์ที่ไม่กลัวที่จะฝันและปราถนาในสิ่งที่เหมือนจะเป็นไปไม่ ได้ ตลอดระยะเวลา 127 ปี ไซโก้ได้สร้างต้นแบบเทคโนโลยีแห่งการเวลาถึง 4 ชนิดนั่นคือ Spring Drive, Mechanical, Kinetic และ Quartz.

ไซโก้ ได้พัฒนากลไกเหล่านี้จากความชำนาญในระดับสูงสุด แต่ละชนิดถูกพัฒนาต่อไปและแตกแขนงออกไปอย่างไม่กลัวที่จะฝันถึงในสิ่งที่ เป็นไปไม่ได้ ตำนานไซโก้ คือตำนานแห่งพัฒนาการทางเทคโนโลยี ความสัมพันธ์เหล่านี้ถูกบ่งบอกในรูปแบบหมายเลข

Cal. 290 เป็นกลไกต้นแบบของ Magic Lever นาฬิกาไขลานอัตโนมัติที่ออกมาเมื่อปี 1959 Magic Lever เป็นชิ้นส่วนสำคัญของนาฬิกาแบบ Gyro Marvel self-winding ที่ใช้เครื่องรุ่น 290 ชิ้นส่วนที่สำคัญนี้เป็นตัวเปลี่ยนการแกว่งของโรเตอร์เป็นพลังงานให้กับ นาฬิกาไม่ว่าโรเตอร์จะแกว่งไปทางไหน คานชิ้นนี้ก็จะหมุนไปในทิศทางเดียวตลอดเพื่อขันลานให้กับ Main Spring เป็นเวลาเกือบ 50 ปีแล้วที่มันแพร่หลายอยู่ในตลาดและมันก็เป็นเทคโนโลยีต้นแบบของ Seiko Spring Drive ที่ออกมาในปี 2005

1/400 QC-951 Crystal Chronometer ขนาดลดลง 400 เท่าจากปกติที่ใหญ่โตขนาดตู้เสื้อผ้า 2 ตู้ QC-951 เป็น Quartz Chronometer ที่ถูกพํฒนาขึ้นเพื่อใช้จับเวลาในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียวในปี 1964 เป็นนาฬิกาจับเวลาแบบพกพาที่ใช้ระบบ quartz เรือนแรกที่พัฒนาขึ้นโดย Seiko ปี 1974 จึงเป็นปีเริ่มต้นของการจับเวลาที่แม่นยำถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน

1278 นาฬิกาจับเวลาของ Seiko จำนวน 1,278 เรือนถูกนำมาใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่โตเกียวในปี 1974 ด้วยความทุ่มเทและเสียสละของวิศวกรของ Seiko มั่นใจได้ว่าไม่มีความผิดพลาดในเสี้ยววินาที และกลายเป็นสัญลักษณ์ของ Seiko นับแต่นั้นเป็นต้นมา

6425 มาตรฐานสากล ISO 6425 ถูกกำหนดขึ้นโดยอ้างอิงค์จากนาฬิกาดำน้ำของ Seiko ไซโก้ ได้พัฒนานาฬิกาดำน้ำมาอย่างต่อเนื่องนับจากรุ่นแรกที่ออกสู่ตลาดในปี 1965 และได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจอย่างสูงจากทั่วโลกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

1 Seiko ได้รับรางวัล "Best mechanical chronometer" ด้วยคะแนนสูงสุดตั้งแต่เคยมีมาในการประกวด Geneva Observatory Competition ในปี 1968 เป็นคะแนนสูงสุดเป็นประวัติศาสน์ของงานนี้ ส่งผลให้ Seiko ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้

1969 นาฬิกาข้อมือ Quartz เรือนแรกของโลก Astron จาก Seiko วางตลาดในปี 1969 จากเทคโนโลยีที่ใช้ในการแข่งขัน ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับทุกคน จัดว่าเป็นเหตุการสำคัญทึ่สุดเหตุการณ์หนึ่งในหน้าประวัติศาสน์ของ Seiko มันได้รับรางวัล IEEE milestone award ในปี 2004 ปัจจุบันการออกแบบนาฬิกา Quartz ของ Seiko เป็นมาตรฐานสำหรับทั่วโลก เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกนำไปใช้อย่างหลากหลายเช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ ตอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งกล้องดิจิตอล

1986 นาฬิกาข้อมือ Kinetic ของ Seiko เผยโฉมครั้งแรกในงาน Basel ในปี 1986 จากนั้นเป็นต้นมา กลไก Kinetic ของ Seiko กลายเป็นกลไกพื้นฐานสำคัญของนาฬิกา Mechanical watch ของ Seiko จนกระทั่งพัฒนามาเป็น Spring Drive ใที่สุด

60000 ตัวขับเคลื่อนพลังงาน Kinetic ของนาฬิกา Seiko ทำงานที่ 60,000 รอบ/นาที เป็นจำนวนรอบบการทำงานของ oscillating weight ที่มีรอบจัดมากกว่าเครื่องรถฟอมูล่าวัน 4,000 ถึง 20,000 รอบ/นาที

3 การปรับตำแหน่งที่ละเอียดอ่อน 3 ตำแหน่งในครั้งเดียว three-point hammer ลิขสิทธิ์เฉพาะของ Seiko โดยชิ้นส่วนหนึ่งชั้นที่ทำการ reset เข็มทั้งสามของเครื่อง Chronograph 8R ไปที่ตำแหน่ง 0 โดยการกดเพียงครั้งเดียว ช่องว่างระหว่างจุดศูนย์กลางของกระเดื่องและแกน Guide Axis คือตวามลับของระบบนี้

วันเสาร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2553

GRAHAM Chronofighter Oversize GMT

ล้ำขีดจำกัดของ นาฬืกา

สัญชาตญาณแห่งความแรงถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง เมื่อGraham (แกรห์ม) นาฬิกาข้อมือ แบรนด์สปอร์ตสุดขีดสัญชาตญาณอังกฤษ ยังคงรักษาคอนเซ็ปต์ความแรงกับเรือนเวลาสไตล์จัมโบ้ (โครโนไฟเตอร์ โอเวอร์ไซส์ จีอ็มที) สนองมาดแมนบนข้อมือชายหนุ่มด้วยตัวเรือนขนาด 47.0 มิลลิเมตร หนา 16.0 มิลลิเมตร ผลิตจากสแตนเลสสตีล ออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์และโดดเด่นด้วยกระเดื่องกดจับเวลาทางฝั่งซ้าย ซึ่งทำหน้าที่เป็นบ่าปกป้องเม็ดมะยมไปในตัว ตกแต่งขอบตัวเรือนด้วยสเกลเวลา 24 ชั่วโมง พื้นหน้าปัดสีดำ แสดงเวลาแบบ 2 เข็มพร้อมจับเวลาผ่านเข็มวินาทีร่วมกับหน้าปัดย่อยที่ 9 นาฬิกา นอกจากนั้นยังมีเข็มโปร่งหัวลูกศรทำหน้าที่แสดงเวลาไทม์โซนที่ 2 ในแบบ 24 ชั่วโมงอย่างโดดเด่น เติมเต็มความสมบูรณ์ด้วยช่องหน้าต่างแสดงวันที่ขนาดใหญ่ใต้ตำแหน่งเวลา 12 นาฬิกา ควบคุมการทำงานด้วยกลไกออโตเมติกโครโนกราฟ แบบ “Bi-Compax” (ไบคอมแพ็กซ์) Cal.G1733 เลือกประกอบกับสายยางหรือสายหนังตามต้องการ เป็นความแรงแบบเท่ๆที่กระแทกใจชายหนุ่มได้ตรงเป้า

วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553

นาฬิกาข้อมือ เครื่อง 1จังหวะ และ 2จังหวะ

มารู้จักเครื่อง 1จังหวะ และ 2จังหวะในนาฬิกาไขลานหรือออโตเมติกที่ขึ้นลานได้ เริ่มที่เครื่อง 1จังหวะหรือจังหวะเดียวนั้นโดยปรกติเม็ดมะยมจะอยู่ในตำแหน่งขึ้นลานได้ด้วยมือหรือฟรีแล้วแต่เครื่อง รุ่นนั้นๆ เมื่อต้องการตั้งเวลาให้ดึงเม็ดมะยมออกมา ไม่สามารถตั้งวันที่แบบเร็วได้ ต้องหมุนเข็มชั่วโมงให้ผ่านไปเรื่อยๆจนวันที่เปลี่ยนค่า ซึ่งมักพบเห็นได้ในนาฬิการุ่นเก่า เครื่อง 2จังหวะโดยปรกติเม็ดมะยมจะอยู่ในตำแหน่งขึ้นลานได้ด้วยมือหรือฟรีแล้วแต่เครื่อง รุ่นนั้นๆ และเมื่อดึงเม็ดมะยมออกมาหนึ่งระดับจะสามารถตั้งวันและวันที่ได้โดยรวดเร็ว ถ้าต้องการตั้งเวลาให้ดึงเม็ดมะยมออกมาอีกหนึ่งระดับ ซึ่งจะพบเห็นในนาฬิกาข้อมือยุคปัจจุปันส่วนมาก เนื่องจากให้ความสะดวกรวดเร็วและช่วยยืดอายุกลไกภายในตัวเครื่องที่ไม่ต้องหมุนตั้งวัน วันที่กันหลายๆรอบ

วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

แบตเตอรี่นาฬิกาข้อมือ

แบตเตอรี่นาฬิกาข้อมือ

เกือบทุกท่านคงเคยเห็นแล้วรู้จัก หรือคุ้นเคยกับแบตเตอรี่หรือv วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับมันมากขึ้นอีกสักนิด แบตเตอรี่ชนิดนี้จะมีลักษณะทรงกลม ความหาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นของแบตเตอรี่นาฬิกา ที่ตัวแบตเตอรี่ จะพิมพ์แสดงรหัสมีทั้งตัวหนังสือและตัวเลข ตัวหนังสือจะแทนวัสดุที่ใช้ผลิตและแรงดันไฟฟ้าส่วนมากประมาณ 1.5-3 V ส่วนตัวเลขก็แทนเส้นผ่านศูนย์กลาง และความหนา สำหรับแบตเตอรี่นาฬิกาข้อมือ ที่พบเห็นบ่อยๆ LR = Alkaline, at 1.5V SR = Silver Oxide, at 1.55V (ความจุจะสูงกว่าและเสถียรกว่า Alkaline) CR = Lithium/manganese dioxide, at 3V BR = Lithium carbon monofluoride, 3 V, (ใช้ในที่อุณหภูมิสูงๆได้ดี) ตัวอย่าง CR2025 คือ Lithium แรงดัน 3V ขนาด 20mm หนา 2.5mm

Tips -เลือกใช้งานแบตเตอรี่นาฬิกาให้ตรงรุ่น -เมื่อแบตเตอรี่นาฬิกาหมดให้รีบเปลี่ยนใหม่หรือถอดออก -แบตเตอรี่ใหม่ที่นำมาใช้งานควรมีอายุไม่เกิน 1ปี

เครดิตเว็บ G-Shock ดูเวลาดอทคอม

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

นาฬิกาข้อมือ Seiko The Jungle Sports Automatic SKZ211K1

Seiko The Jungle Sports Automatic SKZ211K1

นาฬิกาข้อมือจักรกลอัตโนมัติรูปทรงสปอร์ต มาดมั่นบึกบึน ขอบหน้าปัดสามารถหมุนเพื่อแสดงทิศทาง เครื่อง 7S36 ทับทิม 23 เม็ด ตัวเรือน 43 mm(ไม่รวมเม็ด) และสายทำจากสเตนเลสคุณภาพสูงจากไซโก้ เม็ดมะยมเกลียว ฝาหลังเกลียว กันน้ำ 200 เมตรแฟนไซโก้ ที่รักการผจญภัยและนาฬิกาตัวใหญ่ไม่ผิดหวังครับ

แพ็คเก็จประกอบด้วยกล่อง คู่มือใบรับประกัน และผ้าเช็ดนาฬิกาจากไซโก้

วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553

Seiko Monster กำเนิดแห่งปีศาจท้องทะเล 2


ในยุคนั้นการจะหานาฬิกา Monster ราคาตลาดแบบนิ่งๆนั้นเป็นสิ่งที่หายากมากๆ พอๆกับหานาฬิกา Monster สีหน้าปัดที่ถูกใจเพราะความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนก็เน้นหน้าปัดสีดำ บางคนก็เน้นหน้าปัดสีส้ม ทำให้ต่างๆหาMonster กันไปทั่วตลาด พร้อมกับราคาตลาดที่วิ่งไปๆมาๆ ที่เด็ดกว่านั้น ใส่แล้วเบื่อๆ อาจจะขายได้ราคาพอๆกับตอนไปสอยมาก็ได้ นับเป็นเรื่องที่หาได้ยากมากๆสำหรับนาฬิกา Entry Level อย่างเจ้า Monster การออกแบบของMonsterนั้น นับว่าแหวกแนวกว่านาฬิกาเจ้าอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ตัวเรือน Steel บึกๆ ขนาดใหญ่ที่หนักอึ้ง สายเหล็กที่แน่นหนา พร้อม Extension ที่ขยายได้สำหรับใส่ Wet Suit ดำน้ำ พร้อมระบบดับเบิลล็อค เพื่อล็อคสายให้มั่นคงแข็งแรง ขณะทำกิจกรรมต่าง
หรือจะเป็นวงแหวนจับเวลาที่ขอบถูกออกแบบให้ใหญ่ชัดเจนพร้อมด้านข้างที่มีช่องเว้าขนาดใหญ่ ที่สามารถปรับได้อย่างสะดวกแม้ยามใส่ถุงมือดำน้ำก็ตามและตัววงแหวนจับเวลายังหมุนทิศทางเดียวเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย เรียกได้ว่ายึดถือการออกแบบตามนาฬิกาดำน้ำแบบมืออาชีพกันเลยทีเดียว ข้อดีเหล่านี้เองทำให้ Monsterได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในตลาดนาฬืกา Entry Level คิดเอาเองแล้วกันครับ




ดังขนาดที่ Seikoส่งเจ้าMonster รุ่นพิเศษสำหรับประเทศไทยเปิดตัวในปี 2003 ที่เป็นหน้าปัดสีเหลืองสด กระจกเป็นแบบ Crytal Sapphireพร้องเลนส์ขยายวันที่ หรือเรียกกันติดปากว่า Cyclop ผมได้มีโอกาสอยู่ในการเปิดขายนาฬิการุ่นนี้ครั้งแรกเมื่อปี 2003 ในงานนาฬิกาแห่งหนึ่งย่านบางกะปิ ที่แม้ในตอนนั้นการประชาสัมพันธ์จะไม่ได้ทำอะไรมากมายนักแต่เมื่อเปิดขายกลับกลายเป็นว่ามีผู้คนต่างแย่งซื้อมากมายจนหมดในเวลาไม่นาน และบรรดาตัวแทนขายต่างๆ และร้านทั่วไปก็โดนโทรตามให้วุ่นจากคนที่พลาดจากการซื้อในงานและเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ทำราคาขายต่อได้ดีมาก ถ้าผมจำไม่ผิดราคาขายของเจ้ารุ่นนี้เคยทะยายไปถึง 40,000 บาท จากราคานาฬิกาแค่หมื่นนิดๆเท่านั้นถือว่าเป็นปรากฏการณ์ทางการตลาดของวงการนาฬิกาที่หาไม่ได้ง่ายนักและจะหาใครมาเทียบเคียงก็คงจะยากอีกเหมือนกันและความนิยมในตัว Monsterก็ยังคงอยู่เช่นเดิม ทั้งๆที่ตัวหน้าปัดสีเหลืองหมดได้จากตัวแทนจำหน่ายไปแล้ว ทำให้ช่วงปี 2005-2006 ไซโก้ได้ส่ง Blue Monsterลงสู่ตลาดเพื่อเอาใจแฟนๆอีกครั้ง



 ถัดมาในปี 2007 ก็ส่งอีกรุ่นคือ Red Monsterมาเพิ่มความฮิตของกระแสMonsterให้โด่งดังมากขึ้นและ Seikoก็ได้ส่ง Monster ออกมาอีกหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็นรุ่น Black×Black Monster ที่ผลิตเฉพาะตลาดญี่ปุ่นเท่านั้นและไม่นับรวมรุ่นย่อยๆอีกมากมาย อย่างเช่นรุ่น Land Monster , Price Monster , Mini Monster นับกันไม่หวาดไม่ไหว แต่ไม่ว่าจะออกมากี่รุ่นต่อกี่รุ่น คนทั่วโลกก็ยังคงความสนใจอยู่ไม่เสื่อคลาย และปี 2010 ก็เขย่าวงการอีกครั้ง ด้วยการแนะนำ Green Monster ซึ่งกระแสในขณะนี้ถือว่าร้อนแรงสุดๆ เพราะขนาดต้องลงคิวจองยาวเป็นหางว่าวและคาดว่า Green Monsterรุ่นนี้จะหมดตลาดไปอย่างรวดเร็ว คงมีเหลือแต่ราคาในตลาดขายต่อที่มีการเพิ่มราคาสูงขึ้นกว่าเดิมไปมากเเล้ว



Seiko Monster ถือเป็นการเกิดขึ้นของปรากฏการณ์ใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้น วงการนาฬิการะดับราคา Entry Level และจุดเริ่มต้นความโด่งดังนั้นก็มีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศไทย จากที่ ไซโก้ เคยคิดแต่เพียงว่าเป็นนาฬิกา Driver ที่หน้าตาดีๆ ดุๆ เท่านั้น แต่ในปัจจุบัน การขยับตัวของ Monsterนั้น ส่งผลกระทบอย่างมากมายต่อวงการนาฬิกา และนี่ก็คือ ตำนานที่ยิ่งใหญ่ของเจ้าปีศาจตนนี้นั่นเองครับ


เครดิต หนังสือ 1PM Magazine

Seiko Monster กำเนิดแห่งปีศาจท้องทะเล 1


กำเนิดแห่งปีศาจท้องทะเล

ไซโก้ ผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำจากแดนอาทิตย์อุทัยที่มียอดการผลิตนาฬิกาในแต่ละปีนับสิบล้านเรือนและในทุกๆก็มีรุ่นใหม่ๆออกมาเขย่าตลาดเสมอ ไม่ว่าจะยากดีมีจน เด็กหรือคนแก่ต่างก็เข้าใจกันว่า Seiko คือนาฬิกาแบรนด์จากญี่ปุ่นที่ดีและราคาไม่แพง ตัว ไซโก้ เองก็มีนาฬิกามากมายหลายรุ่นที่เหมาะกับการทำกิจกรรมต่างๆไม่เว้นแต่นาฬิกาข้อมือในกลุ่ม Driver ที่เหมาะสำหรับนักดำน้ำที่ต้องการความสมบุกสมบันในราคาไม่แพงและเชื่อถือได้ ฟังดูใครๆก็ทำอย่าง Seiko ได้ แต่ถ้าคิดให้ดีๆว่า บริษัทที่ผลิตนาฬิกาในแต่ปีละหลายสิบล้านเรือนจะผลิตนาฬิกา Driver คุณภาพดีๆ เชื่อถือได้ในราคาหลักพันหลักหมื่นที่ทำงานด้วยกลไกได้ดีแล้วละก็ บอกเลยว่าในโลกนี้หาใครที่จะเทียบเคียงเท่า Seiko คงไม่มีอีกแล้ว และในปัจจุบัน Seiko ก็ยังคงแนวทางนั้นอยู่เหมือนเดิมทุกประการ



 เข้าเรื่องกับเจ้า Monster ตามที่จั่วหน้าไว้ตามหัว เรื่องข้างบนบ้าง เรื่องของเรื่องคือ Seiko ได้ผลิตนาฬิกา Driver หรือเรียกง่ายๆว่านาฬิกาดำน้ำออกมามากมายก่ายกอง รุ่นเหล่านั้นก็ขายดีแบบเรื่อยๆเอื่อยๆ แต่เมื่อย้อยกลับไปไม่กี่ปีมานี้ในช่วงราวปี 2000 Seiko ก็ทำให้เราๆชาวไทยได้รู้จักนาฬิกา Driver รุ่นหนึ่งที่เป็นจุดตำนานความโด่งดังไปทั่วประเทศไทยและทั่วโลกคือ Seiko Monster นั่นเองและก็ต้องยอมรับอย่างภูมิใจว่ารุ่นนาฬิกา Seiko นั้นมีต้นกำเนิดมาจากประเทศไทยและโด่งดังจนเข้าใจและเรียกกันไปไกลทั่วโลกแถม Seikoเองก็ชอบชื่อนี้เสียด้วย ทำให้การแนะนำนาฬิกาในซีรีย์นี้ถูกเรียกขานในชื่อ Monster ไปโดยปริยาย การตั้งชื่อเรียก Monster เกิดจากสองบุคคลที่คลุกคลีอยู่ในวงการนาฬิกามาอย่างยาวนานและถ้าใครเล่นเว็บนาฬิกาต่างๆมานานพอแล้วหละก็ คงพอจำได้หรือคุ้นชื่อทั้งสองท่าน เป็นอย่างดีแน่นอน คงแรกก็คือ ทอมมี่ แห่งเว็บไซต์ Siamnaliga.com และคนที่สองคือคุณ Reto Cascellazzi แห่ง Poorman’s watch forum ชาวสวิตที่พำนักอยู่เมืองไทยและหลงใหลนาฬิกาเช่นกันทั้งสองท่านนี้เป็นคนที่คอยเฟ้นหานาฬิกาดีๆ ราคาไม่แพง มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับบรรดาเพื่อนๆ และสมาชิกเว็บอยู่เสมอ และเมื่อ Moster ออกขายในปี 2000 ก็ยังไม่ดังเปรี้ยงร้าง มากนัก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไรเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะ Seiko ในตอนนั้นไม้ได้คิดว่ารุ่นนี้จะเป็นรุ่นเด่นดังเหมือนในทุกวันนี้ก็เป็นได้ แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปในปี2002 บุคคลทั้งสองท่านก็ได้นำเจ้า Moster มาพูดคุยกับเพื่อนๆที่รู้จักและตั้งชื่อเล่นๆว่า Monster ด้วยหน้าตารูปลักษณ์เหมือน Sea Monster ที่บึกบึน ใหญ่ หนา หนักเป็นที่สุด แต่ประเด็นที่ส่งต่อความดังก็คือ Seiko ได้ผลิตนาฬิกา Driver คุณภาพดีมากๆเรือนกนึ่งในราคาแค่หลักพัน พร้อมคุณสมบัติมากมายเหมือนนาฬิกาDriver ราคาแพง แถมการผลิตก็อยู่ในระดับที่ดีด้วย พูดตรงๆ นาฬิกาแบนด์สวิตบางแบรนด์อาจจะต้องอายม้วนไปก็ได้ ไม่ว่าจะราคาหรือคุณภาพการผลิตและหลังจานั้นชื่อ Monster ก็ได้จารึกอยู่ในใจนักสะสมมากมายและขยายขจรไกลไปทั่วทั้งโลก Monsterในยุคเริ่มแรกนั้นแบ่งออกเป็น 2 รุ่น ก็คือ รุ่น หน้าปัดสีดำSKX779K1 และหน้าปัดสีส้มสดSKX781K1
SKX779K1


SKX781K1

เครดิต หนังสือ 1PM Magazine

การใช้งาน Bezel


การใช้งานขอบบาเซิล
1.วางนาฬิกาข้อมือในแนวราบ(อยู่บนข้อมือได้) ชี้เข็มสั้นเข้าหาดวงอาทิตย์
2.หมุนขอบหน้าปัด Compass Bezel ให้ทิศ “S” อยู่ตรงกลางระหว่างเข็มสั้นกับตำแหน่ง “12” นาฬิกา, สมมุติเข็มสั้นชี้ 10น. ดังนั้น “S” จะต้องหมุนไปที่ตำแหน่ง “11” นาฬิกา …..ในตอนบ่ายก็ใช้วิธีเดียวกันเพียงแต่หมุนให้ “S” อยู่ระหว่างกลางของ ตำแหน่ง “12” นาฬิกา(ด้านขวา)กับเข็มสั้นเช่นเดิม
3.เราสามารถอ่านทิศได้ตาม Compass Bezel ได้เลยครับ ตำแหน่ง, “N” ชี้ไปทิศเหนือ, “S” ชี้ไปทิศใต้…..ตามลำดับครับ
อธิบายเพิ่มเติมครับ, นาฬิกาข้อมือส่วนใหญ่เป็นแบบ 12 ชม. สมมุติว่าดวงอาทิตย์ขึ้น 06:00 ตกเวลา 18:00 หมายความว่าดวงอาทิตย์โคจรจาก…..ขอบฟ้าทิศตะวันออกไป ขอบฟ้า ยังทิศตะวันตก ……180 องศา, ในขณะที่นาฬิกาหมุนจาก 06:00-18:00 ……360 องศา ดังนั้นเข็มสั้นของนาฬิกาจะเดินทาง 30 องศา ทุกๆชั่วโมงในขณะที่ดวงอาทิตย์เดินทาง 15 องศา ทุกๆชั่วโมงเป็นเหตุให้เราต้องชดเชยการเปลี่ยนมุมโคจรของดวงอาทิตย์โดยการหมุน “S” ให้เริ่มเดินทางจากตำแหน่ง “9” นาฬิกาและจบที่ “15” นาฬิกา และปรับให้องศาของดวงอาทิตย์เปลี่ยนเพียง 15 องศาทุกชั่วโมงโดยการหมุนให้ “S” อยู่ระหว่างกลางของเข็มสั้นกับ “12” นาฬิกา
ในตอน 06:00 ลองดูนะครับ เราชี้เข็มสั้นไปที่ดวงอาทิตย์ “S” จะต้องหมุนมาที่ ตำแหน่ง “9” นาฬิกา…..ดังนั้น “E” จะถูกหมุนมาอยู่ตำแหน่งเดียวกับ 06:00 นาฬิกาและจะชี้ไปทางดวงอาทิตย์ คราวนี้เราก็จะอ่านทิศจาก Compass Bezel ได้แล้วละครับ
ตอน 12:00 ทั้งเข็มสั้นและ “S” จะชี้ไปที่ดวงอาทิตย์, เนื่องจากแกนโลกเอียงดังนั้นตำแหน่งดวงอาทิตย์จะไม่อยู่ตรงศรีษะครับ…จึงสามารถหมุนนาฬิกาให้เข็มสั้นชี้เข้าหาดวงอาทิตย์ได้เสมอ
สำหรับประเทศใต้เส้น Equator ทำตรงข้ามโดยการหมุน “N” อยู่ระหว่างกลางเข็มสั้นกับ “12” นาฬิกาครับ
ขอให้มีความสุขและสนุกกับการหมุนเข็มทิศ….ครับผม
ข้อมูลจากเว็บ สยามนาฬิกา

วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553

นาฬิกาข้อมือ Casio G-Shock GA-100 Series GA-100-1A2DR

นาฬิกาข้อมือ แข็งแรงทนทานตามแบบฉบับ G-Shockหน้าจอ2ระบบ ตัวเรือนและสายเรซิ่นสีดำเข็มและหลักบอกชั่วโมงสีน้ำเงิน ตัวเรือนใหญ่ ที่รวมเอาแบบเข็มอนาลอคและ LCD ไว้ด้วยกันเพื่อความเป็นเลิศในการใช้งานคนรัก G-Shockไม่ควรพลาด
GA-100-1A2DR
กันสะเทือน G-SHOCK กันสนามแม่เหล็กตามมาตรฐาน ISO กันน้ำลึก 200 เมตร ไฟ LED Auto light switch,selectable illumination duration, afterglow บอกเวลา 48 เมืองใหญ่ทั่วโลก จับเวลาเดินหน้า,ถอยหลัง ตั้งปลุก 5ครั้ง/วัน ปฏิทินอัตโนมัติ ถึงปี 2039 ขนาด 55 X 51.2 X 16.9mm น้ำหนัก 70g

วันศุกร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2553

นาฬิกาข้อมือ Seiko Vintage Automatic Shapphire SRP023K1

Seiko Vintage Shapphire SRP023K1 นาฬิกาสไตล์วินเทจ หน้าปัดขาว ตัวเรือนสแตนเลสสตีล หน้ากลม ขนาดตัวเรือน 40 mm เข็มดาบ สุดคลาสสิค หลักชั่วโมงแบบตัวเลขโรมัน แสดงวันที่ หน้าปัดพิมพ์ลาย ฝาหลังเปลือยโชว์กลไกออโตเมติกชั้นสูงรุ่นใหม่ 4R15 ให้ความเที่ยงตรงสูง เข้ากับสายหนัง กระจกแซฟไฟร์กันรอย กันน้ำลึก 50 m สวยไม่ส่างครับตัวนี้

นาฬิกาข้อมือ เครื่อง 1จังหวะ และ 2จังหวะ

มารู้จักเครื่อง 1จังหวะ และ 2จังหวะในนาฬิกาข้อมือไขลานหรือออโตเมติกที่ขึ้นลานได้ เริ่มที่เครื่อง 1จังหวะหรือจังหวะเดียวนั้นโดยปรกติเม็ดมะยมจะอยู่ในตำแหน่งขึ้นลานได้ด้วยมือหรือฟรีแล้วแต่เครื่อง รุ่นนั้นๆ เมื่อต้องการตั้งเวลาให้ดึงเม็ดมะยมออกมา ไม่สามารถตั้งวันที่แบบเร็วได้ ต้องหมุนเข็มชั่วโมงให้ผ่านไปเรื่อยๆจนวันที่เปลี่ยนค่า ซึ่งมักพบเห็นได้ในนาฬิการุ่นเก่า
.
 เครื่อง 2จังหวะโดยปรกติเม็ดมะยมจะอยู่ในตำแหน่งขึ้นลานได้ด้วยมือหรือฟรีแล้วแต่เครื่อง รุ่นนั้นๆ และเมื่อดึงเม็ดมะยมออกมาหนึ่งระดับจะสามารถตั้งวันและวันที่ได้โดยรวดเร็ว ถ้าต้องการตั้งเวลาให้ดึงเม็ดมะยมออกมาอีกหนึ่งระดับ ซึ่งจะพบเห็นในนาฬิกาข้อมือยุคปัจจุปันส่วนมาก เนื่องจากให้ความสะดวกรวดเร็วและช่วยยืดอายุกลไกภายในตัวเครื่องที่ไม่ต้องหมุนตั้งวัน วันที่กันหลายๆรอบ

วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

นาฬิกาข้อมือ Rado Ceramica Digital Automatic

นาฬิการาโด้
พลิกโฉมวงการนาฬิกาข้อมือด้วยกลไกอัตโนมัติแบบพิเศษ ที่แสดงผลในรูปดิจิตอล โดยกลไกอัตโนมัติ Cal. E18.711 จะทำหน้าที่ส่งพลังงานและเก็บกักพลังงานสำหรับการแสดงผลไว้และแสดงเวลาผ่านหน้าปัด Digital โดยมีระยะเวลาสำรองพลังงานได้ 120วัน เมื่อนาฬิกาไม่ได้รับพลังงานเพิ่มเติม
ด้วยตัวเรือนคมเข้ม ทรงเหลี่ยม PVD ซ้อนอยู่ในเซรามิค มาพร้อมกับสายเซรามิค ที่ทนทานรอยขีดข่วนไดเป็นอย่างดี เป็นลิขสิทธ์เฉพาะ Rado ด้วยส่วนผสมของ
Hi-Tech Ceramic แบบพิเศษที่ทาง Radoได้คิดค้นขึ้น

Seiko Diver's 200m Kinetic SKA385P1

ไซโก้ นาฬิกาดำน้ำ 200m Kinetic SKA385P1 Kinetic ตัวนี้สวยดีครับเหลืองได้ใจ นาฬิกาข้อมือตัวใหญ่จากไซโก้ในตระกูลนาฬิกาดำน้ำ ของไซโก้ ท่านที่ชอบตัวใหญ่บึกบืนไม่ผิดหวัง สามารถเช็คพลังงานโดยกดปุ่มตรง 2นาฬิกาโดยเช็คพลังงานที่เหลือ จากเข็มวินาที แสดงวันที่ตรงสามนาฬิกา เหมาะกับคนข้อมือใหญ่ มีน้ำหนักพอสมควร

วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553

นาฬิกาไซโก้ Sportura : Shape for speed

นาฬิกาข้อมือ Seiko Sportura : Shape for speed แรงเหนือคำบรรยาย ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องสำหรับคอเลคชัน Sportura ที่ทำให้กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญให้งานจากคอลเลคชันนี้พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง Sportura ได้รับแรงบันดาลใจจากความงานและคุณลักษณะของรถสปอร์ตจากทีมแข่งรถชื่อดังระดับโลกอย่างทีม Honda Racing F1 จึงถือได้ว่าเป็นนาฬิกาสำหรับคนรุ่มใหม่อย่างแท้จริง และยังคงมีการพัฒนา Sportura ภายใต้แนวคิด New body ตัวเรือนใหม่โค้งบางรับกับข้อมือมากยิ่งขึ้นผนวกกับ New engine ซึ่งบรรจุภายในด้วยเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด และ New suspension ข้อต่อและหัวสายที่กระชับรับกับข้อมือมากยิ่งขึ้น โดยรุ่นปี 2007 “Sportura” Honda Racing F1 Edition [SPC009] นาฬิกาสปอร์ตโครโนกราฟรุ่นล่าสุดที่พัฒนาการดีไซน์ให้ดูสปอร์ตเร้าใจขึ้น ด้วยความร่วมมือระหว่าง SEIKO และ F1 Honda Racing Team สำหรับการออกแบที่ยังคงรูปลักษณ์ของ Sportura เช่นเคยด้วยการเน้นโทนสีดำและแดง เสริมด้วยการออกแบบลายหน้าปัดแบบไมล์รถแข่ง F1 กระจกคริสตัลซัฟไฟร์ที่กันแสงสะท้อนและรอยขีดข่วน เพิ่มความเข้มแข็งและดุดันที่ตัวเรือนสเตนเลสสตีล โดยเคลือบ Black IP Coating สายหนังสปอร์ตทำจากยูริเทนที่เพิ่มความร้อนแรงด้วยการออกแบบให้มีลวดลายเดียวกับยางของรถแข่งฟอร์มูล่าวัน ผสมผสานกันอย่างลงตัวด้วยขอบสายสีแดงโครโนกราฟฟังก์ชันจับเวลาละเอียด 1/10วินาที นาน 120 นาที

จริงหรือไม่ที่ว่านาฬิกานั้นเป็นแค่เครื่องบอกเวลาหรือเครื่องประดับ

 ก่อนที่ทุก ๆ ท่านจะอ่านบทความนี้ ผมมีคำถามเล็ก ๆ สำหรับทุก ๆ คน โดยขอท่านตั้งคำถามสำหรับตัวท่านในใจว่า นาฬิกาที่อยู่บนข้อมือของท่านที่...